“Hardcore Henry”สร้างปรากฏการณ์บนแผ่นฟิล์ม!!
ภาพไล่ล่า ฝ่ากระสุน เสี่ยงตายมองผ่านกล้องติดร่างกาย
เตรียมพบปรากฏการณ์ความบ้าระห่ำบนจอภาพยนตร์แบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ครั้งแรกของโลกที่ผู้ชมจะได้พบภาพยนตร์แอคชั่นไอเดียสุดล้ำที่ใช้มุมมองกล้องผ่านสายตาของตัวละคร (Firs Person Point of View) สร้างประสบการณ์ดูหนังเสมือนตัวผู้ชมฝ่าฟันอุปสรรค ตะลุยดงกระสุน ไล่อัดศัตรูตลอดทั้งเรื่องไปพร้อมนักแสดง ใน“Hardcore Henry - เฮนรี่ โคตรฮาร์ดคอร์” เป็นครั้งแรกของโลก ที่มุมกล้องยอดฮิตแห่งวงการเกม จะถูกนำมาใช้กับภาพยนตร์แบบเต็มๆเรื่อง ให้ผู้ชมได้มันส์ไปกับทุกภาพ ทุกมุมเดียวกับที่ตัวละครมองเห็น ราวกับกลายเป็น “เฮนรี่” วิ่งฝ่าฟันเหล่าร้าย ฝ่าดงกระสุน ระเบิด ต่อสู้ด้วยตนเองตลอดทั้งเรื่อง มุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First Person Point of View) ถือกำเนิดขึ้นบนโลกบันเทิงครั้งแรกในวิดีโอเกม Doom เมื่อปีค.ศ. 1993 กลายเป็นปรากฏการณ์กำเนิดเกมแนวยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS – First Person Shooting) ที่ฮิตติดลมบน กลายเป็นสิ่งที่พลิกโฉมหน้าวงการเกมทั้งโลกในเวลานั้น เมื่อเวลาผ่านไป เกมแนวนี้นอกจากมีการพัฒนาให้มีกราฟฟิคที่สวยงามขึ้นแล้ว ก็ทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเกมแนวที่ผู้คนนิยมที่สุดในโลกไปโดยปริยาย ซีรีย์เกมยอดฮิตอย่าง Call of Duty กลายเป็นซีรีย์วิดีโอเกมแรกของโลกที่ทำยอดขายรวมทุกภาคเกินหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนที่ความนิยมจะลามมาถึงวงการภาพยนตร์ในเวลาต่อมา แต่ก็ยังไม่มีผู้กำกับคนใดที่กล้าทำภาพยนตร์ด้วยมุมมองแบบนี้เต็ม จนกระทั่ง Hardcore Henry ได้ถือกำเนิดขึ้น
เมื่อปี 2014 ทิเมอร์ เบคแมมเบตอฟ ตำนานผู้กำกับแอคชั่นยอดฝีมือจากภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดล้ำอย่าง Wanted เกิดไปสะดุดตามิวสิควีดีโอไอเดียสุดแหวกที่ใช้มุมกล้องบุคคลที่หนึ่งตลอดเพลงอย่าง ‘Bad Motherf*cker’ ของวง Biting Elbows วงดนตรีอินดี้ร็อคเชื้อสายรัสเซีย กำกับโดย อิเลีย ไนชูลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกของวง ที่ปรากฏขึ้นบนยูทูบ สร้างกระแสไวรัลไปทั่วโลก กวาดยอดผู้ชมไปกว่า 40 ล้านครั้ง ส่งผลให้ไนชูลเลอร์ ถึงกับมีคนเอาเขาไปเปรียบว่ามีสไตล์เหมือนกับ เควนติน ทาแรนทิโน่ ยอดฝีมือหนังแอ็คชั่นแห่งยุค ยอดผู้กำกับจึงเข้าทาบทามไนชูลเลอร์ ชวนทำภาพยนตร์ขนาดยาว และขอเข้ามานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ยาวที่ใช้สไตล์ภาพ POV ตลอดทั้งเรื่อง โดยให้ผู้กำกับไฟแรงผู้นี้กำกับภาพยนตร์ด้วยตนเอง โดยไนชูลเลอร์ตอบตกลงภายในเสี้ยววินาที จึงเป็นจุดกำเนิด Hardcore Henry ภาพยนตร์สุดบ้าบิ่นเรื่องนี้ขึ้นมา นอกจากนี้ได้ทีมวิชวลเอฟเฟคต์จาก The Avengers, Mad Max: Fury Road, Avatar และ Guardian of the Galaxy มาช่วยผนึกกำลังความระห่ำในครั้งนี้อีกด้วย ปัจจุบันกล้องประเภท Action Camera หรือกล้องที่ผู้ใช้สามารถติดไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย หรืออุปกรณ์กีฬา ช่วยให้สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวมุมมองใหม่ๆ กลายมาเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬา และผู้คนที่ชอบแอคชั่นมันส์ๆทั่วโลก การถ่ายทำภาพยนตร์ Hardcore Henry ก็พัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการนำกล้องยี่ห้อ GoPro รุ่น Hero 3 Black Edition มาติดเข้ากับชุดหมวกที่ทำขึ้นมาสำหรับสวมศีรษะ เพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ โดยอิเลีย ไนชูลเลอร์ กล่าวว่า
“ครั้งแรกที่เราลองถ่ายมุมนี้กัน เราเอากล้องติดไว้กับหัวของนักแสดง เราไม่ได้มีชุดเครื่องมือเจ๋งๆ เลยตอนนั้น เลยเข้าไปที่เซ็กซ์ชอป แล้วซื้อเอาหน้ากากแบบซาดิสม์มาอันหนึ่ง นั่นละครับชุดติดตั้งกล้องชุดแรกของเรา มันโคตรน่าอายเลยครับ สำหรับเทคนิคการถ่ายทำ ผมเคยเห็นคนมากมายใส่หมวกแล้วก็เอากล้องติดไว้ด้านหน้า พอถ่ายออกมามันก็ยังไม่ได้ความรู้สึกที่เหมือนสายตามนุษย์เท่าไหร่นัก เราเลยลองเลื่อนตำแหน่งกล้องลงมาไว้ตรงปาก ซึ่งใกล้เคียงระดับสายตามนุษย์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทันทีที่เราเห็นภาพที่ออกมาจากการวางกล้องระดับปาก เราก็ตัดสินใจถ่ายทำด้วยตำแหน่งกล้องนั้นทันทีครับ เรื่องนี้เราไม่ได้ใช้กล้องแบบธรรมดา การถ่ายทำเลยยากกว่ามาก พวกสตันท์แมนก็ต้องเรียนรู้วิธีการใหม่ด้วย เพราะไม่สามารถชกหลบๆ ได้เหมือนการถ่ายแบบเดิมๆ ฉากไล่ล่าด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน ความยาวสามนาที ในฉากมีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราจะต้องกระโดดข้ามไปข้ามมาระหว่างรถที่วิ่งอยู่ด้วยความเร็วสูงมากๆ พร้อมทั้งระเบิดอีกมากมายที่ระเบิดขึ้นรอบๆ ตัว ถ้าเราพลาดเพียงนิดเดียว อาจตกจากรถ ถูกสะเก็ดระเบิด หรือที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือร่วงลงมาแล้วถูกรถทับ คิวสตันท์ที่เราทำกัน อาจเป็นการกระทำเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่สุดที่หนังเรื่องไหนเคยทำมา และอาจลงเอยแบบน่ากลัวสุดๆ ได้เลยครับ”
หลังจากถ่ายทำเสร็จสิ้น ภาพยนตร์ Hardcore Henry ก็ได้ไปเปิดตัวครั้งแรกในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต้ 2015 ซึ่งหลังจากที่ฉายไป ก็ได้กลายมาเป็นกระแสฟีเวอร์โลกคลั่ง ผงาดคว้ารางวัลขวัญใจมหาชนสาขา Midnight Madness ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมอบให้กับภาพยนตร์ที่มีความสุดขั้ว บ้าระห่ำที่สุดของงาน นอกจากนี้ เหล่าผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ที่ได้เข้าร่วมงานก็ต่างพากันรุมแย่งสิทธิ์ในการจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ จนในที่สุดก็ขายได้ในราคาประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีราคาซื้อขายแพงที่สุดในประวัติศาสตร์งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต้ ตอกย้ำคุณภาพแห่งความบ้าครั้งใหญ่ ที่โลกแห่งภาพยนตร์ไม่เคยเจอมาก่อน กับการไล่ล่าบ้าคลั่ง อันตราย ระห่ำ พิสูจน์ด้วยสายตาคุณเอง ผ่านสายตาของเฮนรี่ เปิดรอบพิเศษ 12 เมษายน รอบ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 21 เมษายนนี้