กลับมาอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยสำหรับบอนด์สุดเท่ห์ลุยแหลก  แดเนี่ยล เคร็ก ในบท“เจมส์ บอนด์” พยัคฆ์ร้ายหนุ่มที่ผู้หญิงทั่วโลกหลงเสน่ห์  กับตอนที่ 24 ของหนังชุด เจมส์ บอนด์  พยัคฆ์ร้าย 007 ที่มีชื่อตอนว่า“SPECTRE”  กำกับภาพยนตร์โดย  เจ้าของรางวัลออสการ์  แซม  เมนเดส  พร้อมกองทัพนักแสดง  คริสตอฟ วอลซ์ (เจ้าของรางวัลออสการ์ อวอร์ด), โมนิก้า เบลลุคชี่, เลอา เซดูย์, เดวิด โบทิสต้า, เรฟฟ์ ไฟนน์, นาโอมิ แฮร์ริส     

                ในภาคนี้ โซนี่ ไทยได้พันธมิตร ทั้ง 6  ยักษ์ใหญ่ในระดับโลก ที่อยู่กับเจมส์ บอนด์มาหลายยุคหลายสมัยอย่าง  ไฮเนเก้น ,  แอสตัน มาร์ติน ก็เป็นโปรดักส์ เพลสเมนท์ มีออร์เดอร์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นสำหรับเจมส์ บอนด์, ทางบริษัท สว๊อช กรุ๊ป นำเข้าโอเมก้า ซึ่งได้แดเนียล เคร็กเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีจำนวนจำกัด,  ส่วนดิออจิโอก็มีของวอทก้า แต่ในเมืองไทยอาจจะไม่เห็นหนังโฆษณาจะเห็นในต่างประเทศ  สำหรับ โซนี่ ไทย มีโทรศัพท์มือถือของโซนี่เอ็กซ์พรีเรียลเป็นรุ่นที่ใช้ในหนัง, บริษัท ยิลเลต ที่ได้ทำใบมีดโกนสำหรับรุ่นนี้โดนเฉพาะ  โดย  อาร์ม เจริญศิริ  ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด โซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล  ออกมาฟันธงการันตี SPECTRE 007  องค์กรลับ ดับพยัคฆ์ร้าย  พร้อมกล่าวว่า

​           “เจมส์ บอนด์ สเป็คเตอร์ นับเป็นภาคที่ 24 แล้วนะครับ และเมื่อ 3 ปีที่แล้วปี 2012 เราก็เพิ่งทำครบรอบ 50 ปี เจมส์ บอนด์ ไป  แดเนียล เคร็ก เองก็เป็น เจมส์ บอนด์ คนที่ 6 และโซนี่ พิคเจอร์ส  ก็มีโอกาสทำหนังเจมส์ บอนด์ ตั้งแต่แดเนียล เคร็ก เป็นพระเอกภาคนี้เป็นภาคที่ 4 นะครับ  ในบ็อกออฟฟิศมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงภาคที่เรียกว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือภาคของ  สกาย ฟอล์ ในปี 2012   จริงๆ ต้องบอกว่า สเป็คเตอร์  เราได้ชื่อมาก็ดูว่า สเป็คเตอร์ มันคืออะไร ทางผมกับทีมงานก็ได้กลับไปทำการบ้านกัน ซึ่งจริงๆ แล้ว สเป็คเตอร์เป็นองค์กรที่ไม่ใช่ได้มีในภาคนี้เป็นภาคแรกหรอก  แต่สเป็คเตอร์อยู่คู่กับ 007 มาตั้งแต่ภาค 2-3 แล้ว ตั้งแต่ ฌอห์น คอนเนอร์ลี่ แล้วครับ  และองค์กรสเป็คเตอร์ก็ผลุบๆโผล่ๆในหนังเจมส์ บอนด์มา 5-6 เรื่องได้เท่าที่ผ่านมา และตั้งแต่แดเนียล เคร็กกลับมารับบทนี้   สเป็กเตอร์ก็กลับมาโผล่อีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า เจมส์ บอนด์มีวายร้ายเป็นองค์กรสเป็คเตอร์นี่แหละเป็นคู่ต่อกรมาหลายยุคหลายสมัย  ถ้าใครเป็นแฟนเจมส์ บอนด์ ก็จะรู้ว่าสเป็คเตอร์กลับมาอีกแล้ว แล้วคราวนี้หัวหน้าเป็นใครล่ะครับ

                เรื่องแอ็คชั่นเท่าที่ได้เห็นทั้งในตัวอย่าง, คลิป ภาพยนตร์  ต้องบอกว่าค่อนข้างจะน่าดูทีเดียว คือเจมส์ บอนด์ในเรื่องของแอ็คชั่นต้องบอกว่าไม่เหมือนหนังอื่นๆที่ค่อนข้างใช้ซีจีเยอะ ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเยอะ อย่างที่เห็นเปิดเรื่องมา  เจมส์ บอนด์  ในทุกๆ ภาคจะมีฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่องเลย ไม่รู้ว่าตั้งแต่ภาคแรกหรือเปล่า แต่ภาค 2-3 ก็แอ็คชั่นเปิดเรื่องมาเลย พอเริ่มฉากแอ็คชั่นปุ๊บก็จะมีซาวด์แทร็ก ซึ่งฉากแอ็คชั่นแต่ละตอนๆใครที่เป็นแฟนเจมส์ บอนด์จะรู้ว่าจะมีความคาดหวัง อย่างเรื่องนี้ฉากเปิดเท่าที่ผมทราบก็คือ เปิดในเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งใช้เอ็กซ์ตร้า1,500 คน และมีในเรื่องของคอสตูมต่างๆ เพราะวันนั้นจะต้องแต่งตัวเป็นเทศกาลคนตายของเขา และมีในเรื่องของฉากเฮลิคอปเตอร์ผาดโผน ซึ่งผมได้ข่าวว่าใช้เฮลิคอปเตอร์ของทางกระทิงแดง เรดบูลล์ มาทำสตั้นท์จริง  มีการโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ด้วย และในระยะต่ำขนาดนั้นได้เนี่ย ในเม็กซิโก ซิตี้เองต้องทำจดหมายแจกเป็นร้อยๆหลังคาเรือนเลยล่ะครับ  เพราะมันไปโรยอยู่บนหลังคาเขา ที่พูดนี่ก็แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ทำ คือเป็นฉากจริงๆจังๆ  กับฉากหิมะจะเห็นว่าผู้กำกับบอกสมัย โรเจอร์ มัวส์ จะเล่นสกีอยู่บนภูเขา แต่คราวนี้เราจะเห็นบอนด์ ตั้งแต่ แดเนียล เคร็ก เล่นยังไม่เคยมีฉากหิมะเลย คราวนี้ก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และคุณจะเห็นรถโฟร์วิว ไดรฟ์ไล่ล่ากับเครื่องบินในฉากหิมะ  และอีกฉากอยากให้ติดตามคือ รถยนต์ไล่ล่ากันคือปิดกรุงโรม  8 วัน 8 คืนด้วยกัน ปิดกรุงโรมและรถแอสตัน มาร์ตินวิ่งไล่ล่ากับรถยนต์จากัวร์รุ่นที่เป็นซุเปอร์คาร์นะครับ  ซึ่งนอกจากรถที่ใช้กันไปหลายคันแล้ว ผมเข้าใจว่าแอสตัน มาร์ตินใช้ไป 8 คันในฉากนี้ ในส่วนของวัตถุโบราณต่างๆที่อยู่ในกรุงโรม สถานที่สำคัญต่างๆของเขาก็มีความเสี่ยงสูงเหมือนกัน ก็ต้องใช้สตั้นท์มืออาชีพ  ไม่อย่างนั้นวิ่งชนพวกอนุสรณ์สถานโบราณอะไรของเขาในกรุงโรม มันก็ประเมินค่าไม่ได้นะครับ  ฉะนั้นก็จะได้เห็นอะไรที่สมจริงสมจัง  ถ้าถามว่าภาคนี้น่าดูไหม ด้วยฉากแอ็คชั่นเน้นให้ดู 3  ฉากเปิด ฉากหิมะ และฉากซิ่งไล่ล่ากันในกรุงโรม ที่ปิดกรุงโรมล่าไม่มีเรื่องไหนน่าจะทำขนาดนี้นะ ผมว่า

สำหรับ  แดเนี่ยล เคร็ก ที่เคยมีข่าวว่าจะเล่นเป็นภาคใกล้ๆจะสุดท้าย อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ แต่เท่าที่ดูข่าวจริงๆ สัญญาของแดเนียล กับ โซนี่ พิคเจอร์ส ยังไม่หมดซะทีเดียวนะครับ  มันก็อาจจะใกล้หมดแล้วล่ะ แต่ก็อาจจะต่อหรือไม่ต่อ  แต่ถามว่าหมดไหมมันยังไม่หมด แต่แน่นอนว่าแดเนียล เคร็กเองที่รอมาตั้ง 3 ปีเนี่ย  จริงๆก็รอผู้กำกับ แซม เมนเดส ที่มีผลงานกำกับละครเวทีอยู่   ซึ่งสองคนนี้ก็เหมือนกับทำงานเข้าขากันมากน่ะครับ  ฉะนั้นในความเป็นผู้กำกับผมคิดว่าถ้าเขาทำในขีดสุดของตัวเขาเองแล้ว  มันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว  เขาก็อาจจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้  นั่นคือมาสเตอร์

พีซของเขาแล้ว ฉะนั้นดาราคู่บุญเองก็อาจจะคิดอย่างนั้นเหมือนกันว่าอันนี้ก็คือมาสเตอร์พีซสูงสุดของเขาแล้วเหมือนกัน อาจจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเล่นในภาคต่อไป  อาจจะนะครับ  เพราะมันคือพาร์ทที่ดีที่สุดแล้ว นั่นคือความคิดของเขาตรงนี้  แต่ว่าอนาคตก็ไม่มีใครบอกได้  ซึ่งผมว่าแฟนๆควรจะต้องติดตามดูภาคนี้นะครับ  เพราะมันคือมาสเตอร์พีซของผู้กำกับรางวัลออสการ์ และแดเนียล เคร็กเองที่หลายๆคนบอกว่าเขารับบทเป็น เจมส์ บอนด์ ได้สมจริงและดีที่สุดครับ

          ความคาดหวัง จริงๆก็ต้องแบ่งเป็นสองเรื่อง  ในฐานะผู้จัดจำหน่ายก็คงต้องคาดหวังตัวเลขมันจะต้องมากกว่าภาคที่แล้วอย่างแน่นอน แต่ทีนี้จะมากกว่าเท่าไหร่เราก็มีอยู่ในใจว่ามันควรจะมากกว่า 10-15% ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น อย่างภาค สกาย ฟอล์ ตัวเลขทั่วต่างจังหวัดที่เราทำได้ประมาณ 120 ล้านครับ  แต่อย่างสเป็คเตอร์เราต้องการที่ 150 ล้านในทั่วประเทศครับ และถ้าความคาดหวังในเรื่องของเนื้อหนังแล้วอันนี้มีแนวโน้มที่ดี เพราะผู้กำกับก็คนเดิม แซม เมนเดส และ เดเนียล เครก ก็กลับมา และทุกคนที่รับบทใน MI6  ก็กลับมาหมด และนิตยสารหลายๆนิตยสารที่คาดหวังเขาก็บอกว่าให้คูณสิบเข้าไปเลย คือน่าจะสุดๆแล้วล่ะภาคนี้ คือเป็นหนังสายลับมันส์ และมีความดีอยู่ในตัวเป็นหนังดีด้วย”