รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาเล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในเรื่องที่ดินทำกินโดยผ่านโครงการของสถาบันบริหารจัดการธนาคาร ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการแก้ไขปัญหาด้านการบริโภคและการป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการขายใบอนุญาตขับขี่ ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ประเสริฐวงษ์สุวรรณผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ช่วยพี่น้องเกษตรกรให้ที่ดินทำกินไปแล้ว 2,631 ราย 877 ครัวเรือนจำนวนที่ดินที่บจ ธ . ดำเนินการ 3,151 ไร่ในโครงการตามภารกิจของบจ ธ . ทุกโครงการจะต้องน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง“ พระมหากษัตริย์” มาเป็นหลักในการพัฒนาดินในโครงการ
เมื่อวันพุธที่ 22 มกราคม 2563 สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (บมจ.) หรือบจ ธ . เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการปกครองส่วนภูมิภาค ..... ณ โรงแรมบรรจงบุรีตำบลมะขามเตี้ยอำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยมี พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติศรีวรขานคณะทำงานด้านกฎหมายการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในฐานะประธานในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของภาครัฐ ดังกล่าวเป็นจำนวนกว่า 200 คน
นายเอก วรรณประทีป รองผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า จากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลให้นโยบายการจัดสรรที่ดินทำกินแก่เกษตรกรไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า ทั่วประเทศมีประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ขึ้นทะเบียนขอรับจัดสรรที่ดินถึง 800,000 ราย ดังนั้น ในหลายปีที่ผ่านมาจึงเกิดปัญหากลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ถูกทิ้งรกร้างในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จนกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน เกิดการฟ้องร้องขับไล่ บังคับคดี ประชาชนและเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ บจธ. ในฐานะหน่วยงานที่แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน จึงถือเป็นภารกิจสำคัญในการเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มคนดังกล่าวให้มีที่ดินทำกิน สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มเกษตรกรจำนวนมากเข้ามาขอความช่วยเหลือจาก บจธ. เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ตำบลคลองน้อย อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 167 คน ได้รวมตัวกันไปใช้ประโยชน์ในสวนปาล์มที่ถูกทิ้งรกร้าง ไม่มีการใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2531-2551 โดยร่วมกันสร้างเป็นชุมชนชื่อว่า “ชุมชนน้ำแดงพัฒนา” เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยการทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ต่าง ๆ และที่อยู่อาศัย เมื่อเกษตรกรเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ปรากฏว่าได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและฟ้องขับไล่จากบริษัทเอกชน ต่อมากลุ่มเกษตรกรได้ร่วมกันก่อตั้ง “สหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด” และได้ทำหนังสือขอรับการช่วยเหลือจาก บจธ. โดยจัดซื้อที่ดินในท้องที่ ต. คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ให้สหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด
บจ ธ . มีแผนในการจัดซื้อที่ดินที่เหมาะสมประมาณ 62 ไร่ให้แก่เกษตรกรจำนวน 27 ครัวเรือนที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้โดยการให้เช่าซื้อระยะเวลา 30 ปีโดยคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ต่อปี