“efin” (อีฟิน) ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ส่งฟังก์ชั่น “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) ลงตลาด พลิกโฉมระบบเทรดหุ้นครบวงจร ไม่พลาดในทุกก้าวและทุกจังหวะการลงทุนด้วยระบบการซื้อ-ขายอัตโนมัติครั้งแรกแรกในไทยที่พัฒนาโดยฝีมือคนไทย ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2558 แอพพลิเคชั่น “efin Trade Plus” (อีฟิน เทรด พลัส) จะมีการใช้งานเพิ่มเป็น 15 บริษัทหลักทรัพย์และฟังก์ชั่น “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) จะใช้งานได้ถึง 5 บริษัทหลักทรัพย์
นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มพฤติกรรมการเทรดหุ้นออนไลน์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีการเทรดดิ้งรวม 8,295,015.44 ล้านบาท แบ่งเป็น “ออนไลน์เทรดดิ้ง” (Online Trading) 45.22 % และเทรดหุ้นแบบปกติคิดเป็น 54.78% ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกของปี 2558 มีมูลค่าการเทรดหุ้นออนไลน์รวมทั้งสิ้น 4,291,906.11 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้านส่งผลให้นักลงทุนมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากต้องติดตามข่าวสารและอัพเดทการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ล่าสุด “efin” (อีฟิน) ผู้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์และข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนแบบออนไลน์ และผู้บริหารงานเว็บไซต์ www.efinancethai.com ที่มีนักลงทุนเข้าใช้แอพพลิเคชั่นการลงทุนมากที่สุดของประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวความสามารถของฟังก์ชั่น “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) หรือระบบส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่นักลงทุนสามารถกำหนดได้เองล่วงหน้า ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่นซื้อขายหลักทรัพย์ทางออนไลน์ที่มีชื่อว่า “efin Trade Plus” (อีฟิน เทรด พลัส) นอกจากนี้ยังรองรับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน
สำหรับการพัฒนาฟังก์ชั่น “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) ในปัจจุบันจัดได้ว่าทางบริษัทฯเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาระบบที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบครบวงจร โดยใช้งบในการพัฒนาในครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาทด้วยกัน ซึ่งได้ใช้นักพัฒนาระบบที่เป็นคนไทยกว่า 40 คน และใช้ระยะเวลาในการพัฒนาระบบดังกล่าวกว่า 2 ปี ทั้งนี้ได้ทำการศึกษาและเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมของนักลงทุนไทยเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบนี้ให้มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้อย่างแท้จริง
แอพพลิเคชั่น “efin Trade Plus” (อีฟิน เทรด พลัส) ประกอบด้วยฟังก์ชั่นเด่นๆ ได้แก่ Simple Auto Trade (การตั้งเงื่อนไขแบบง่าย), Take Profit/Trailling Stop Loss/Cut loss (ใช้สำหรับการตั้งขายได้เท่านั้น) ,Money management(การบริหารเงินในการลงทุน) ,DCA: Dollar Cost Average(การกำหนดการลงทุนแบบเป็นงวดๆ) และ PZ: Pricing zone(ใช้ทยอยซื้อหุ้นเมื่อราคาย่อตัว) อีกทั้งยังมี Batch Order ฟังก์ชันส่งคำสั่งเป็นชุดชุดละ 50 คำสั่ง (แบบ Basket Order) และ Notification on Mobile ระบบ ส่งข้อความ/ Alert ผ่านมือถือ (Android , iPhone / iPad) ” นายพรเลิศกล่าว
นายวชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตย์พงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้วางกลุ่มเป้าหมายของ “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) โดยโฟกัสไปที่กลุ่มนักลงทุนหรือคนวัยทำงานที่มีความชำนาญในการเล่นหุ้นอยู่แล้ว แต่ต้องการความสะดวกสบายจากฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษต่างๆที่ช่วยให้สามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าหน้าจอ ตลอดจนจับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการโปรแกรมซื้อ-ขายแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษตอบสนองได้ตามเงื่อนไขที่นักลงทุนกำหนดเองได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2558 ไว้ว่าแอพพลิเคชั่น “efin Trade Plus” (อีฟิน เทรด พลัส) จะสามารถใช้งานได้เพิ่ม 15 บริษัทหลักทรัพย์จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 บริษัทหลักทรัพย์ และ “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) จะสามารถใช้งานได้ถึง 5 บริษัทหลักทรัพย์ ภายในสิ้นปี 2558 ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โดยล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2558 พบว่ามียอดการใช้งาน “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) จากลูกค้า 1 บริษัทหลักทรัพย์ มีมูลค่าการเทรดผ่าน “Auto Trade” (ออโต้ เทรด) สูงถึง 27.76 ล้านบาท พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช้งาน “efin Trade Plus” (อีฟิน เทรด พลัส) จาก 10 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 15 ราย และคาดว่าในปี 2559 จะเพิ่มเป็น 20 รายอย่างแน่นอน