สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. จัดกิจกรรม “มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน” โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการของ บจธ. เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต พร้อมกันนี้ ได้จัดพิธีมอบสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 324 ครัวเรือน พื้นที่ 2,378 ไร่ โดยแบ่งเป็น 4 ภาค คือ ภาคกลาง 35 ครัวเรือน เนื้อที่ 115-3-15.9 ไร่ ภาคเหนือ 41 ครัวเรือน เนื้อที่ 393-0-16.8 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 206 ครัวเรือน เนื้อที่ 1,726-1-52.4 ไร่ และภาคใต้ 20 ครัวเรือน เนื้อที่ 100-1-84.9 ไร่ ณ ห้องประชุม อาคารอำนวยการ ชั้น 2 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
รับชมได้ทางyoutube
https://www.youtube.com/watch?v=SuOBcoeruzc&feature=youtu.be
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาความเหลื่อมล้ำในที่ดินทำกินของเกษตรกร จึงได้จัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หรือ บจธ. เพื่อเป็นหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ดำเนินการมา บจธ. ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้ว 2,631 ราย 877 ครัวเรือน จำนวนที่ดินที่ บจธ. ดำเนินการกว่า 3,151 ไร่ ในโครงการตามภารกิจของ บจธ. ทุกโครงการ จะต้องน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นหลักในการพัฒนาที่ดินในโครงการด้วย และจะต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีส่วนร่วมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา ประธานกรรมการบริหาร บจธ. กล่าวว่า บจธ. เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาการที่ดินของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายการถือครองที่ดิน ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่า เป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินให้สามารถมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง จากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิในที่ดินไปแล้ว จากการจำนอง การขายฝาก และการถูกบังคับคดี เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า บจธ. สามารถดำเนินการได้หลากหลายวิธีโดยไม่มีความซ้ำซ้อนกับวิธีการที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งนี้ มุ่งหวังว่า บจธ. จะพัฒนาเป็นธนาคารที่ดินหรือองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกันในอนาคตอันใกล้ และพร้อมที่จะสานต่อในการเป็นธนาคารที่ดิน หรือหน่วยงานที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกับที่ดินต่อไปในอนาคต เพื่อช่วยกระจายการถือครองที่ดินให้แก่เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการ บจธ. กล่าวว่า เพื่อให้การกระจายการถือครองที่ดินที่ได้รับการช่วยเหลือจาก บจธ. มีความยั่งยืน ผู้เข้าร่วมโครงการของ บจธ. สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่าและเต็มศักยภาพ ตลอดจนเป็นที่พึ่งให้กับตนเองและครอบครัวในการดำรงชีวิต บจธ. จึงได้จัดกิจกรรมอบรมเรื่อง “ศาสตร์พระราชา” ขึ้นในระหว่างวันที่ ธันวาคม 2562 ในพื้นที่ของ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการทำการเกษตรลักษณะผสมผสาน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นหลักในการพัฒนาพื้นที่ของเกษตรกร ในโครงการตามภารกิจของ บจธ. ทุกโครงการ โดยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจำนวน 200 คน โดยเป็นเกษตรกรทั้งในส่วนโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร และโครงการป้องกันสูญเสียสิทธิ เมื่อนำองค์ความรู้นี้มาปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ จะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นางธนชน เยาวเรศ หรือ ป้าตุ้ม ชาวจังหวัดยโสธร เล่าให้ฟังว่า กรณีของป้า จากที่ต้องการกู้เงินเพื่อบุกเบิกทำไร่ทำนาจากนายทุนที่สนิทกัน โดยนายทุนคิดดอกเบี้ยคิดร้อยละ 3 แต่ต้องแรกด้วยการหาลูกค้ามาให้ เพื่อซื้อวัตถุก่อสร้าง แต่ไม่เป็นดังคิดนายทุนไม่จ่ายยอดที่หาค้าให้ตามที่พูด แม้ป้าจะทยอยใช้หนี้ไปแล้ว พอครบ3 ปี นายทุนกลับเอาที่ไปขายทอดตลาด ป้าเครียดมากไม่รู้จะหาหนทางไหน เมื่อได้ยินว่ามีสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)หรือ บจธ.สามารถช่วยได้ จึงไปทำเรื่องเพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อเอาที่ดินกลับ เมื่อปี 2560 จนถึง วันนี้ชีวิตมีความสุข กินอยู่นอนรับ ชีวิตดีขึ้นมาก ซึ่งจากการได้รับความช่วยเหลือจาก บจธ. ป้าได้แนะนำชาวบ้านที่รู้จัก เข้าข่ายตามข้อกำหนดของ บจธ.ให้มาทำเรื่อง มาขอคำปรึกษาแนะนำ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของนายทุน