“ไดไท่ซู” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามและผิวพรรณไทย ใต้บริษัท ไวม่าลิซ อินเตอร์เนชั่นแนล ฉลองความสำเร็จอย่างรวดเร็วในตลาดจีน มุ่งเป้าเป็นแบรนด์ไทยเบอร์ 1 ในจีน ชูความเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพมีส่วนผสมจากสารสกัดพืชสมุนไพรไทย ล่าสุดพร้อมบุกตลาดไทยเป็นคู่ขนาน รองรับนักท่องเที่ยวจีนมาไทยและผู้บริโภคไทย ตั้งเป้ายอดขายแตะ 1,000 ล้านบาทใน 1 ปี คุณฉงเหมิน แซ่กู ประธานผู้บริหาร บริษัท ไวม่าลิซ อินเตอร์เนชั่นแนล นักธุรกิจสาวชาวจีนที่มีหัวใจเป็นไทยและวิสัยทัศน์กว้างไกลเปิดเผยว่า จากการมีครอบครัวและพักอาศัยในประเทศไทยมานาน

ประกอบกับครอบครัวทำธุรกิจเครื่องสำอางและมีโรงงานผลิตอยู่แล้ว จึงสนใจทำผลิตภัณฑ์ความงามที่เน้นความเป็นไทยเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของชาวจีนที่ชื่นชอบความเป็นไทย แบรนด์ “ไดไท่ซู” จึงเป็นแบรนด์ที่รวบรวมความรักของตนที่มีต่อเมืองไทย ชอบสปาไทยและมองว่า เมืองไทยมีพืชสมุนไพรอยู่มาก จึงทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นแบรนด์ไทย เน้นความเป็นไทย เริ่มจากมาส์กหน้าและขยายเป็นผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดด บอดี้โลชั่น โฟมล้างหน้าและสบู่ หลังจากทำตลาดในจีนเพียง 7เดือนตลาดขานรับประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ทำยอดขายแตะ 250 ล้านบาท

เฉพาะมาส์กหน้าสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 10 ล้านแผ่นในการเปิดขายวันแรก ขณะที่ครีมกันแดดสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 50,000 หลอด ใน 5 นาทีแรก โดยมาส์กหน้านั้นได้รับการยกย่องในจีนว่าเป็น “มาส์กหน้าร้อยไหม” ด้วยมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับใบหน้า ซึ่งในจีนเน้นการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นสำคัญจึงมีร้านจำหน่ายเพียงแห่งเดียวในเซินเจิ้นเท่านั้น จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เวลานี้ทางไวม่าลิซ

นำแบรนด์ไทย “ไดไท่ซู” กลับมาบุกตลาดเมืองไทยด้วย เพื่อให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคนไทยและเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกทางหนึ่ง คุณฉงเหมินกล่าวว่า จุดเด่นของแบรนด์ “ไดไท่ซู” คือ มีส่วนผสมของสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรไทย เช่น กุหลาบจุฬาภรณ์และตะไคร้หอม โดยรับซื้อจากเกษตรกรไทยซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีตลาดรับซื้อ ขณะเดียวกันยังต้องใช้วัตถุดิบในการผลิตเป็นปริมาณมาก โดยต้องใช้ตะไคร้หอมมากถึง 350กิโลกรัมเพื่อสกัดน้ำมันหอมระเหย1 กิโลกรัมใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายและต้องใช้ดอกกุหลาบมากถึง 3 ตันสำหรับสกัดน้ำมันหอมระเหย 1 กิโลกรัม ในปัจจุบันโรงงานที่บางพลีมีกำลังผลิตอยู่ที่ 300,000 ชิ้นต่อวันสำหรับมาส์กหน้า

“น้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบมีกลิ่นหอม หวาน นุ่มนวล แสดงถึงความเป็นผู้หญิงไทย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้นและมีกลิ่นหอมโรแมนติก” ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่นำขายในไทยจะเหมือนที่ขายในตลาดจีน พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Vivid Aroma ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสำหรับสุภาพสตรี โดยจำหน่ายในห้างร้านหลายแห่ง อาทิ ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าปลีกปลอดภาษีของไทย คิงเพาเวอร์ สาขารางน้ำ , ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์, สถานที่ท่องเที่ยวเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์,ร้านจำหน่ายเครื่องสำอางแบบครบวงจรบิวเทรี่ยม และอนาคตจะเข้าห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ คุณฉงเหมินเชื่อมั่นว่า “ไดไท่ซู” จะประสบความสำเร็จในไทยเช่นเดียวกับตลาดจีน จากการมีฐานลูกค้าอยู่ค่อนข้างมากและมีลูกค้าใหม่เพิ่มอีกมากถึง 90%

โดยตั้งเป้ายอดขาย 6 เดือนอยู่ที่ 500 ล้านบาท และคาดว่า 1ปีจะมียอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ในอนาคตจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ซึ่งตั้งเป้าขยายให้ได้มากถึง 31 SKU และแตกแบรนด์เพิ่มอีกภายใต้บริษัทไวม่าลิซ “อยากฝากถึงคนไทยที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์เมืองนอก ให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของคนไทยกันมากขึ้น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพไม่แพ้กัน”