เป็นนักแสดงที่มีความสามารถและงานชุกสำหรับนักแสดงสาวนิสัยดี แม็กกี้ - อาภา ภาวิไล ล่าสุดกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง“แม่เบี้ย” ของ สหมงคล ฟิล์ม โดยการกำกับของ หม่อมหลวง พันธุ์เทวนพ เทวกุล (หม่อมน้อย) เจ้าตัวรับบท คุณโกสุม ส่วนงานละครที่กำลังออกอากาศอยู่“แม่ดอกรักเร่” ส่วนที่ถ่ายทำมี“แฝดล่องหน” กับ “เจ้าบ่าวกลัวฝน” และกำลังศึกษาอยู่ปี 3 ม.กรุงเทพฯ งานล้นมือแต่ก็แบ่งเวลาเรียนกับงานให้ไม่เสียทั้งสองเรื่อง หากว่างก็จะหยิบหนังสือของคุณปู่ ซึ่งเป็นแนวปรัชญาชีวิตมาอ่านใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิต โดยแม็กกี้เผยเรื่องงานและหนังสือเล่มโปรด
“เรื่องแม่เบี้ย รับบท เป็น คุณโกสุม เป็นผู้หญิงที่มีความสวยงามแบบไทยงดงามเหมือนนางในภาพวาด เหมือนนางในวรรณคดีไทยสมัยก่อนเลย เป็นคนที่เรียบร้อยมาก เป็นคนที่รักมั่นถือมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เป็นผู้หญิงเก่งงานบ้านงานเรือนทุกอย่างทำได้หมด เพียบพร้อมมาก และก็รักษาในศีลธรรมมากหวงแหนในเรื่องของประเพณีไทยขนบธรรมเนียมอย่างเคร่งครัดมาก เรามีสามีเรารักเดียวใจเดียวแต่สามีของเราเป็นคนเจ้าชู้มาก และมีเมขลาเป็นลูกสาวคนเดียว เวลามี่คุณโกสุมไปปฏิบัติภารกิจก็ต้องไปขอพรท่านเจ้าที่หรือว่างูเจ้าที่ ให้มาปกป้องดูแลเมขลาแทนเราในยามที่เราไม่อยู่ค่ะ เป็นแม่เมขลา เป็นแม่ในวัยสาว พอมีลูกเราก็เสียชีวิตเลย แล้วก็สถานที่ใต้เรือนไทยหลังนั้นถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่า คุณโกสุม พอเสียชีวิตแล้วก็ไม่ไปไหนดวงวิญญาณก็ยังอยู่ที่บ้านเรือนไทยหลังนั้น เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นดวงวิญญาณต้องวนเวียนอยู่ในบ้านนั้น ใครที่มาทำผิดศีลธรรม งูหรือท่านเจ้าที่ก็จะออกมาปรากฏตัวให้เห็นเหมือนเป็นการเตือนห้ามใครก็แล้วแต่มาทำผิดศีลในบ้านเรือนไทยหลังนี้โดยเฉพาะ เมขลา ที่ชอบทำผิดศีลธรรม ผิดจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นใครงูก็จะออกมาเตือนหรือตัดสินโทษด้วยการฆ่าเลยก็ได้ คุณโกสุม เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ดูแลเมขลาอยู่ไม่ไปไหนห่วงแหนทั้งทรัพย์สมบัติ ศีลธรรมและหวงแหนในตัวเมขลาด้วย เราต้องเล่นในภาคอดีตซึ่งจะส่งผลต่อยุคปัจจุบันนั่นคือตัวเมขลา ร่วมงานกับหม่อมน้อยเป็นเรื่องแรกแต่จริงๆเรียนการแสดงกับหม่อมน้อยมานานแล้วค่ะ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกัน ทุกอย่างที่เราได้เรียนสั่งสมมาจากประสบการณ์จากการที่หม่อมได้สั่งสอนหรือชี้แนะต่างๆทุกคำพูดเราก็ได้จำมาตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ เราได้งัดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจำได้แล้วเราก็ปฏิบัติเอาออกมาใช้ เราได้โชว์ฝีมือในการแสดงของเราจากครูบาอาจารย์ที่ได้สั่งสอนเรามา เราได้โชว์ในเรื่องของความสามารถในเรื่องของการแสดงก็ถือว่าเป็นโอกาสของเราที่ดีมาก ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการด้วย ก็เป็นโอกาสที่หลายๆคนไขว่คว้าที่อยากจะได้แต่แม็กกี้ก็มีโอกาสตรงนี้ก็เลยอยากจะทำออกมาให้ได้ที่สุด ตั้งใจทำที่สุดค่ะ คิดว่าตรงนี้พิเศษที่สุดแล้วอยากทำออกมาให้ดีแล้วก็ออกมาดีจริงๆนะค่ะ เพราะว่าหลายคนก็ชื่นชอบ และเพิ่งรู้ตัวเองเหมือนกันว่าเป็นคนที่ใส่ชุดไทยขึ้น ไม่เชื่อว่าพอแต่งออกมาไม่ใช่แม็กกี้เลย ไม่เคยมีภาพสวยๆแบบนี้มาก่อนและดูเป็นคุณโกสุม มากทุกคนทึ้งไปหมดเลย ทุกคนตบมือให้ทุกคนก็ชมหมดเลยค่ะ ส่วนละครที่กำลังออกอากาศอยู่เรื่อง“แม่ดอกรักเร่” ของพี่กบ-ปภัสรา ที่กำลังถ่ายทำอยู่ 2 เรื่อง“แฝดล่องหน” เป็นละครรีเมทนำมาทำใหม่ ของค่าย กันตนา เล่นเป็นฝาแฝด และเรื่อง“เจ้าบ่าวกลัวฝน” ส่วนหนังก็จะมีโปรเจ็คอยู่เร็วๆนี้ค่ะและกำลังเรียนอยู่ปี 3 ม.กรุงเทพฯ กล้วยน้ำไท งานเยอะก็ต้องแบ่งเวลาเรียนกับงานให้ได้ค่ะ(หัวเราะ) ก็ต้องทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันค่ะ ก็เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะ เราคิดตลอดว่าเราได้โอกาสมากกว่าคนอื่น หลายคนที่เขาพยายามไขว่คว้าทุรนทุรายแทบตาย บางคนอยากจะได้บทบาทนี้มากแต่ก็ยังไม่ได้แต่ว่าเรามีโอกาสเราได้มาง่ายแล้ว ก็เลยอยากจะทำงานชิ้นนี้ที่เราได้รับมาดีที่สุดค่ะ ที่งานเข้ามาเยอะคิดว่าทุกอย่างน่าจะอยู่ที่ผลงานการแสดงนะค่ะ และความรับผิดชอบ ใครๆก็คงดูกันที่ผลงานก่อน ถ้าผลงานเราดีหลายๆคนก็อยากที่จะร่วมงานกับเราด้วย อยากที่จะได้เราไปร่วมงานและเรื่องความรับผิดชอบหลายๆอย่าง ถ้าดูแล้วเราเป็นคนที่สามารถรับผิดชอบงานได้ ตรงต่อเวลาไม่เรื่องมาก ไม่มีผู้จัดคนไหนที่อยากจะให้งานของตัวเองออกมาไม่ดี แม็กกี้คิดว่าการที่มีงานต่อเนื่องก็คงเป็นเพราะว่าผลงานของเรามากกว่าค่ะ
แม็กกี้ชอบอ่านหนังสือปรัชญา จะมีหนังสือคุณปู่ คุณปู่เขียนหนังสือเยอะค่ะอย่างเช่น คุณค่าชีวิต, ปีกหัก, บุปผชาติแห่งชีวิต ฯลฯ จะอ่านหนังสือของคุณปู่ เพราะคุณปู่จะเขียนแนวปรัชญาและก็ธรรมะอะไรแบบนี้เยอะค่ะ หนังสือพวกนี้อ่านแล้วได้ข้อคิดดี เพราะเป็นหลักธรรมสอน เราได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ค่ะ อ่านแล้วก็กลับมาใช้กับชีวิตประจำวันของเรากับการทำงานกับการเรียนกับการดำเนินชีวิตค่ะ อย่างหนังสือคุณค่าชีวิต เขาก็จะสอนให้เรารู้จักคุณค่าของชีวิตว่าเราควรจะดูแลตัวเองยังไงและก็หน้าที่ของเราควรจะทำอย่างไร เหมือนกับเราโตขึ้นมาเราก็มีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือก่อนแล้วเราก็ตอบแทนพ่อแม่ดูแลครอบครัวค่ะ เราก็คิดว่าการที่เรารู้จักคุณค่า หนังสือเล่มนี้จะสอนให้เรารู้จักคุณค่าของตัวเรามากขึ้น บางคนที่เขายังไม่รู้จักตัวเองยังไม่รู้จักตัวเองว่ามีคุณค่าแค่ไหน เกิดมาเป็นมนุษย์มีคุณค่าแค่ไหนทำอะไรไว้บ้าง สร้างประโยชน์ สร้างสิ่งสร้างสิ่งสร้างสรรค์อะไรได้บ้าง หนังสือคุณค่าชีวิตหมือนเป็นแนวทางเตือนสติแล้วก็สอนให้รู้ว่าจริงๆแล้ว ชีวิตเราเกิดมาทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ตั้งเยอะ อยากให้เรารู้จักตัวเองรู้จักคุณค่าของชีวิตค่ะ และถ้าซื้ออ่านก็ค่อนข้างจะเป็นแนวนี้ซะส่วนใหญ่ แล้วก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับพวกมนุษย์ศาสตร์ หรือเกี่ยวกับจิตวิทยาอะไรประมาณนี้ค่ะ ชอบศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ อ่านแล้วก็เข้าใจแต่ไม่ได้ศึกษาแบบเจาะลึกค่ะ เพราะมันต้องใช้เวลาอ่านเยอะค่ะ เราไม่ค่อยมีเวลาเราแค่เข้าใจในพฤติกรรมบางอย่าง ที่อยากจะศึกษาเพราะจะเอากลับไปใช้ในเรื่องของการแสดงด้วย เพราะว่ามันก็เกี่ยวข้องกันค่ะ ถ้าเราศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ความเป็นธรรมชาติได้มากแค่ไหนเราก็นำมาปรับกับตัวละครมีคาแรกเตอร์หรืองานของเรา พัฒนางานเราให้มันดีขึ้น จริงๆแม็กกี้ก็ไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเก่ง แต่ก็คิดว่าจากที่แม็กกี้ได้อ่านก็ถือว่าพอประมาณ หนังสือเนี่ยฝึกสมาธิให้กับเราแล้วก็ให้ประโยชน์กับเรา แล้วแต่ว่าเราจะรับประโยชน์ออกมาได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสมาธิของเราด้วย หนังสือแน่นอนมีประโยชน์อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นด้านไหน เป็นข้อมูลที่เราอยากจะรู้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมวลสารของเขาได้มากแค่ไหนและที่สำคัญเราอ่านแล้วๆเราลืมหรือเปล่า หรือว่าเราอ่านแล้วเราเก็บไปคิดแล้วก็เอาไปทำหรือเปล่า ก็คิดว่าประโยชน์ของอ่านหนังสือการที่เราได้อ่านและได้คิดที่จะทำอะไรต่อจากข้อมูลที่เราได้อ่านค่ะ”
เฉลยคำถาม“อ๊อฟ- ชนะพล” ชอบอ่าน ขายหัวเราะ
คำถาม หนังสือปรัชญา 3 เล่มที่ปู่แม็กกี้- อาภาเขียนชื่ออะไรบ้าง?
ทราบคำตอบเขียนใส่ไปรษณียบัตรพร้อมชื่อ-ที่อยู่ ส่งมาที่ เล่มโปรดคนดัง 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวง จันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ผู้ที่ตอบถูก 3 ท่านจะได้รับหนังสือจาก สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)