คปก. เห็นชอบใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้เยียวยาปัญหาปนเปื้อนสารตะกั่ว



เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร) ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาอนุมัติโครงการจัดซื้อเครื่องหาพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GNSS ชนิด Rover) และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จังหวัดชลบุรี รวมถึงการอนุญาตให้วัดใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ดำเนินกิจการทางศาสนาได้เกินกว่า 15 ไร่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร) เปิดเผยว่า คปก. ได้อนุญาตให้ กรมควบคุมมลพิษใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 62-2-10 ไร่ เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว โดยบริเวณที่ดินดังกล่าวเคยเป็นที่ตั้งของโรงแต่งแร่ และบ่อเก็บตะกอน ซึ่งกรมควบคุมมลพิษตรวจพบว่ามีปริมาณสารตะกั่วในดินสูงเกินค่ามาตรฐานที่จะใช้เป็นที่พักอาศัยหรือปลูกพืช ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษจึงมีแผนฟื้นฟูที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยการวางหินหนา 60 เซนติเมตร ทับที่ดินเดิมและกลบทับด้วยดินสะอาดอีกครั้งหนึ่งเพื่อป้องกันสารตะกั่วรั่วไหลสู่ภายนอก พร้อมเฝ้าติดตามผลต่อเนื่อง

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 1/2562 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดซื้อเครื่องหาพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GNSS ชนิด Rover) จำนวน 88 ชุด และเห็นชอบให้ใช้เงินจ่ายขาดจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการดังกล่าว วงเงิน 36 ล้านบาท ทดแทนระบบสำรวจรังวัดเดิมของ ส.ป.ก. โดยเทคโนโลยี ด้านการสำรวจรังวัดใหม่ที่ ส.ป.ก. จะนำมาใช้นี้ คือ ระบบโครงข่ายการรังวัดด้วยดาวเทียมแบบจลน์ (RTK GNSS Network) ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผลการสำรวจรังวัดและแผนที่ที่มีความถูกต้อง แม่นยำ ตรงตามภูมิประเทศจริง และเป็นที่ยอมรับของสากล ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพงานสำรวจรังวัดของ ส.ป.ก. ทำให้สามารถบริหารจัดการที่ดินของรัฐได้อย่าง มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างเกษตรกรด้วยกันเองได้

นอกจากนี้ ข้อมูล รูปแปลงและเส้นแนวเขตที่ดินใหม่ที่ได้สามารถนำไปเชื่อมโยงกับข้อมูลแผนที่ของหน่วยงานอื่นเพื่อบูรณาการการแก้ไขปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ หรือ One Map ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย ขณะเดียวกัน คปก. ยังได้อนุมัติให้ ส.ป.ก. ดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จังหวัดชลบุรี และเห็นชอบให้ใช้เงินจ่ายขาดจากกองทุน การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการดังกล่าว จำนวน 2 รายการ คือ 1) การขยายเขตไฟฟ้า ในชุมชนและใช้ในระบบประปาบาดาลและหอถังสูง ในพื้นที่ชุมชนเขาซก ต.เขาซก อ.หนองใหญ่ 2) การขยายเขตไฟฟ้าในชุมชนและใช้ในระบบประปาบาดาลและหอถังสูง ในพื้นที่ชุมชนบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง วงเงินรวม 5.3 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน จำนวน 89 ราย เนื้อที่ 1,640 ไร่ มีระบบไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมต่อไปได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ คปก. ยังได้อนุญาตให้วัดสวนป่าริมธาร จ.มุกดาหาร วัดไตรสิกขาราม และวัดภูริทัตตถิราวาส จ.สกลนคร ใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อดำเนินกิจการทางศาสนาได้เกินกว่า 15 ไร่ โดยทางวัดได้ดำเนินการ ตามประกาศคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่อง แนวทางและขั้นตอนในการพิจารณาการขอใช้ที่ดินของวัดหรือสำนักสงฆ์ในเขตปฏิรูปที่ดิน กรณีเกินกว่า 15 ไร่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ ส.ป.ก. และมหาเถรสมาคมเห็นชอบร่วมกัน ให้แบ่งพื้นที่วัดออกเป็นเขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตพุทธอุทยาน พร้อมจัดทำผัง รูปแผนที่ ตลอดจนโครงการ ที่จะดำเนินการในเขตพุทธอุทยาน