ด้วยธรรมชาติมนุษย์ก็เป็นพลังงานแบบหนึ่ง ดังนั้นพลังงานจากคนรอบตัวจึงสามารถส่งผ่านมาถึงเราได้เช่นกัน เรียกว่า เป็นการถ่ายเทพลังงานระหว่างกัน และพลังงานเหล่านี้จะแปรผันตามความใกล้ชิด ความสัมพันธ์และระยะเวลาที่มีร่วมกัน ยิ่งสนิทสนมหรือใช้เวลาร่วมกันมาก การถ่ายเทพลังงานระหว่างกันจะยิ่งเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น
แต่ทว่า พลังงานระหว่างมนุษย์ที่สามารถถ่ายเทกันไปมาได้นั้นไม่ได้มีแต่ “พลังดี ๆ ที่เหมาะกับเราเท่านั้น” แต่มันยังรวมถึง “พลังไม่ดีต่างๆ ที่ไม่เหมาะกับเราด้วย “ อีกทั้งในบางครั้งเราเองก็อาจจะกลายเป็น “แหล่งพลังงานดีๆ “ ให้ “ผีดูดพลัง” จนเรารู้สึกอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เหนื่อย จิตใจห่อเหี่ยว และหมดความสุขไปในเวลาอันสั้น อาจารย์หยาง เผยเซิน ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดอาจารย์หยาง เปิดเผยว่า “ผีดูดพลัง” ก็คือผู้ที่ทำให้ผู้อื่นสูญเสียพลัง หงุดหงิด โมโห ไม่สบายใจ แต่ตัวเขาเองได้พลัง มีอารมณ์ดีขึ้น ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่ไม่มีเจตนาทำร้ายเรา, 2.ประเภทที่มีเจตนาทำร้ายเรา
สำหรับ ผีดูดพลังประเภทที่ไม่มีเจตนาทำร้ายเราได้แก่ ผีขี้บ่น แทบได้ว่าบ่นได้ทุกกรณี บ่นนู่นนี่นั่น จนทำให้ผู้ฟัง หรือผู้ที่ได้ยินแล้วรู้สึกเสียพลังอารมณ์ไม่ดี ผีจุกจิกจู้จี้ คือ ผู้ที่ชอบโทษผู้อื่น กรณีนี้มักเกิดขึ้นกับครอบครัวหรือที่ทำงาน ผีขี้ขลาด ผู้ที่ตกใจง่าย พอกลัวขึ้นมาก็พูดโวยวาย พลอยทำให้ผู้ฟังตกใจไปด้วย ผีรำคาญ ผู้ที่ชอบหาเรื่องให้เสมอคอยให้แก้ปัญหาให้อยู่บ่อยๆ
สำหรับผีดูดพลังประเภทที่มีเจตนาทำร้ายเรา คือ ผีอาฆาต ทวงหนี้ คู่เวร คู่อริ ผีประเภทนี้เป็นผีมีเจตนาทำร้ายเรา ในทางพุทธศาสนาบอกว่าเป็นเรื่องของ “กรรม”
ดังนั้น “ผีดูดพลัง” ที่กล่าวถึงก็ไม่ใช่ใครอื่น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนรอบตัวเรานั่นเอง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่เราจะไม่มีความสุขในชีวิตประจำวัน หลักสูตรผีดูดพลังจึงเน้นสอนให้เรารู้จักผีดูดพลังมีกี่ประเภท มีประเภทไหนบ้าง ทำอย่างไรถึงรู้ว่าคนไหนเป็นผีดูดพลังสำหรับเรา และมีวิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงผีดูดพลัง อย่างไร รวมทั้งวิธีฟื้นฟูพลังให้แก่ตนเอง