“หนูอยู่ได้ไม่เกินอายุ 17 ปี" เป็นคำพูดของหมอ ที่ทำให้น้องฝ้ายหันมาสู้ชีวิตอีกครั้ง ยึดหลักเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว ไม่อยากให้เสียชาติเกิด ไม่ประมาทชีวิต คิดดี ทำดี พูดดี ซึ่งเป็นวิธีการสร้างความสุขและความสำเร็จให้กับชีวิต ถึงวันนี้หนูอายุ 18 ปี สามารถเอาชนะความตายไปได้แล้ว 1 ปี”
น้องฝ้าย-บุญธิดา ชินวงษ์ สาวพิการไร้แขนทั้ง 2 ข้าง วัย 18 ปี ปัจจุบันเป็นนักเรียนกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายศิลป์-ฝรั่งเศส โรงเรียนปากเกร็ด กล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเล่าถึงเรื่องราวตัวเองต่อไปว่า หนูเป็นคนกรุงเทพฯ อาศัยอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ (ตรงข้ามศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ) มีพี่น้อง 2 คน ตอนนี้พี่สาวทำงานแล้วทำเกี่ยวกับเครื่องประดับและอัญมณี ส่วนพ่อทำงานไม่ค่อยได้ เพราะป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบซี ส่วนแม่เปิดร้านซักรีดผ้า หนูพิการมาตั้งแต่กำเนิด คือ ไม่มีแขน 2 ข้าง หนำซ้ำยังมีปอดข้างเดียวและกระดูกสันหลังคดทำให้ขาขวาสั้น เดินไม่ค่อยสะดวก ไปไหนมาไหนต้องนั่งวีลแชร์
“อย่าหากว่าดราม่าเลย เชื่อมั้ยว่า พอหนูจำความได้ก็ไม่เคยคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ตีอกชกตัว ว่าทำไมสภาพเราเป็นแบบนี้ เพราะมีคนในครอบครัวคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจมาอย่างสม่ำเสมอ สัมผัสได้ว่า ครอบครัวไม่เคยหยุดรักหนูแม้แต่วินาทีเดียว เลยคิดสู้ไม่ยอมแพ้ มองโลกสวยมาตลอด ถึงแม้เราจะพิการร่างกายแต่ว่าหัวใจเราไม่เคยพิการ ยึดความดีเป็นที่ตั้งของชีวิต”
น้องฝ้าย เปิดใจว่า เริ่มมีความรู้สึกว่า มีความสนใจเรื่องสวย ๆงาม ๆ มาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะเรื่องการแต่งหน้า จะติดตามดูการรีวิวแต่งหน้านับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งมาเจอการสอนแต่งหน้าและรีวิวเครื่องสำอางของ พี่นุ่น นพลักษณ์ บิวตี้บล็อกเกอร์ จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากจะเป็นช่างแต่งหน้าขึ้นมาอย่างแรง เนื่องจากพี่เค้าสอนดีและแนะนำให้เข้าใจง่าย ๆ อย่างแต่งหน้าสไตล์ฝรั่งหรือ สาย ฝ. เนี่ยหนูชอบมาก เน้นการแต่งแบบสาวผิวสีแทน เรียบๆ ง่าย ๆ ซึ่งตรงกับผิวของหนู เลยยึดเป็นเทรนด์หลักการแต่งหน้านเทรป์จึงขอเงินแม่ไปซื้อเครื่องสำอางเพิ่มจากที่มีอยู่เดิม ได้เรียนรู้เพิ่มเติมมาเรื่อย ๆ จึงตัดสินใจเปิดบล็อกเกอร์แนะนำการแต่งหน้าสไลต์แบบเรา และรีวิวเครื่องสำอางไป มีคนชื่นชมและให้กำลังใจ ตอนนี้มีคนติดตามเฟซบุ๊กประมาณ 152,305 คน แล้ว (FACEBOOK : Buntida Chinnawong)
“ยอมรับคะว่ามีนักเลงคีย์บอร์ดเข้ามาคอมเม้นท์ เสีย ๆ หาย ๆ อย่างเช่น ไม่เจียมตัวบ้าง บ้าไปหรือเปล่าใครที่ไหนจะมายอมให้เอาเท้าแต่งหน้า สกปรกจะตาย อะไรแบบนี้ หนูคิดว่า หนูสวยและมีความมั่นใจมาก (หัวเราะ) จึงไม่ได้สนใจเสียงนกเสียงกา ไม่เคยสนใจพวกจุดดำ ๆ เล็ก ๆ บนพื้นที่สีขาว เขาไม่ได้มีส่วนทำให้เราเจริญขึ้นหรือต่ำลง เราเป็นคนดีซะอย่าง ใครคิดไม่ดีกับเราก็ถือว่าเป็นคนเลว เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองและยกระดับจิตใจดีกว่า อย่าได้แคร์ หนูคิดว่าเป็นคนเต็มร้อยมากกว่าคนเหล่านี้ เพราะมีคนแบบนี้สังคมจึงมีปัญหาวุ่นวาย อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง พิการกายยังดีกว่าพิการใจค่ะ”
น้องฝ้าย เล่าว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งได้ออกเงินให้ไปเข้าคอร์สเรียนแต่งหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่โรงเรียนศิลปการแต่งหน้าเอ็มทีไอ โดยเป็นคอร์สเรียนแต่งหน้าตัวเอง รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้รับประสบการณ์ดี ๆ มาเติมเต็มให้กับชีวิต หนูตั้งใจเรียนมากจนครูที่สอนบอกว่า ผลงานที่ออกมาเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกแยก คราวนี้เลยทำให้ใจฮึกเหิม ตั้งปณิธานไว้ในใจอย่างแน่แน่วว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะสวย เราจะมั่นใจ และเป็นเมคอัพอาร์สทิสต์ให้ได้ ต้องขอบคุณเอ็มทีไอเป็นอย่างสูงที่สร้างฝันให้เป็นจริง โดยเฉพาะได้ให้ทุนหนูกับพี่สาวเรียนแต่งหน้าอาชีพต่อไปอีก แล้วยังได้รับเชิญไปออกรายการสวย เป๊ะ เว่อร์ ของเอ็มทีไอ ทางช่อง เอส แชนแนลด้วยค่ะ (ลิ้งค์รายการ https://www.youtube.com/watch?v=GoqP_cb71Fg&feature=youtu.be )
หนูว่าอาชีพช่างแต่งหน้าไม่มีวันตายไปจากโลกนี้ ขอเพียงแค่เราต้องพัฒนาฝีมือทำตัวให้เป็นกบนอกกะลา มองให้เห็นโลกกว้างไกล นี่ถ้าไม่เกรงใจแบรนด์เอ็มทีไอหนูจะขออาสาเป็นพรีเซ็นเตอร์สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการเลยนะคะ
“พี่สาวเป็นหนูทดลองคนแรกเลย ไม่ต้องกลัวว่า เท้าสกปรก หนูทำความสะอาดเรียบร้อย เพ้นท์เล็บอีกต่างหาก จริง ๆ แล้วก็ไม่เคยคิดว่าเป็นเท้า เป็นสองมือเราที่สร้างสรรค์และสร้างโลกให้สวยนี่แหละ จากนั้นก็เคยแต่งให้เพื่อนพี่สาวและญาติของ ๆ ของพี่สาว ในวันแต่งหน้า มีฟีตแบคกลับมาคือ เราแต่งสวยจนใคร ๆ ต้องออกปากชม เมื่อบอกว่า คนแต่งหน้าเป็นพิการไม่มีแขนใช้เท้าแต่งหน้า ก็มีทั้งคนงงหนักและไม่เชื่อ คราวนี้กำลังใจมาเกินร้อย ยิ่งมีคนติดตามในโซเชี่ยลมิเดียมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้เรามั่นใจพร้อมก้าวไปข้างหน้าและศรัทธาในตัวเองว่า ชาตินี้เราคงเอาดีในอาชีพช่างแต่งหน้าได้ เพียงแค่ว่า ลูกค้าจะมีความมั่นใจในตัวเราหรือเปล่าเท่านั้นเอง”
น้องฝ้ายได้พูดถึงอนาคตของตัวเองว่า อยากเรียนด้านนิเทศศาสตร์ โดยเฉพาะด้านวิทยุและโทรทัศน์ ชอบที่จะสื่อสารกับผู้อื่น ชอบเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสารต่าง ๆ เราจะได้นำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา พร้อมช่วยนำทางให้กับผู้พิการด้วยกัน มาช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีมุมแอบฝันลึก ๆ ว่า นอกจากเป็นช่างแต่งหน้าที่สังคมให้การยอมรับแล้ว ยังอยากเป็นทั้งบิวตี้บล็อกเกอร์ นางแบบไม่มีแขนคนแรกของเมืองไทยที่เดินอยู่แคตวอล์ก เป็นนักแสดง เพื่อจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับผู้พิการด้วยกัน ที่สำคัญหนูจะช่วยเป็นหลักของครอบครัว ตอนนี้ก็กำลังเก็บเงินไว้ซื้อบ้าน รายได้มาจากรีวิวสินค้าและรับจ้างแต่งหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ
“จะว่าไปแล้ว มีคนที่ลำบากกว่าเราอีกเยอะเลย แต่สิ่งที่หนูยึดถือเป็นแนวคิดคือ คนเราควรที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิตอยู่ตลอดเวลา ลองมองหาใครสักคนเป็นแบบอย่าง จดบันทึกทุกความสำเร็จ ให้ทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม และ ก่อนนอนให้นึกสิ่งดี ๆ ทั้งที่ผ่านมาแล้วอยากให้เกิดขึ้น ความสำเร็จจะบังเกิดขึ้นกับคุณไม่วันใดก็วันหนึ่ง จงอย่าท้อ! ท้อเป็นผลไม้ที่มีไว้ให้ลิงถือเท่านั้น ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ”
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนแต่งหน้ากับโรงเรียนศิลปการแต่งหน้าเอ็มทีไอ ขณะนี้มีโปรใหม่สุดคุ้ม เลือกจ่ายตามใจ หลักสูตรเริ่มต้นช่างแต่งหน้ามืออาชีพจากราคาเต็ม 30,000 บาท ลดเหลือ 25,000 บาท รับฟรี! เครื่องสำอางแบบมืออาชีพครบเซ็ต และชุดแปรงแต่งหน้า 15 ชิ้น พร้อมกระเป๋า MTI หรือเลือกจ่ายในราคา 15,000 บาท และรับฟรีชุดแปรงแต่งหน้า 15 ชิ้น
นอกจากนี้ยังหลักสูตรเรียน 60 ชั่วโมง รับใบประกาศนียบัตร รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ“เรียนซ้ำได้ไม่จำกัดภายใน 1 ปี” การันตีเรียนจบรับงานได้เลย ทั้งงานแต่งหน้าเจ้าสาว งานแต่งหน้ารับปริญญา งานแต่งหน้าออกงาน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ สมัครเรียนหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร.0-2693-2480 ต่อ 131,132 หรือ 0891136775 และ 0863416713,Line : @mtimakeupschool
และ Inbox : m.me/mtimakeup
ลิ้งค์รายการ สวย เป๊ะ เว่อร์
https://www.youtube.com/watch?v=GoqP_cb71Fg&feature=youtu.be