ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า “วันนี้คนไทยเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงการเปลี่ยนแปลงจากสังคมแอนะล็อก (Analog) ไปสู่สังคมดิจิทัล ซึ่งทั่วโลกมีการเปลี่ยนผ่านเรื่องของดิจิทัลที่ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อาจที่จะอยู่นิ่งได้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ การส่งเสริมและพัฒนาให้ทรัพยากรบุคคลพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว เยาวชนที่เป็นทรัพย์สินที่มีค่าสูงสุดของประเทศ กระทรวงดิจิทัลฯ เชื่อมั่นว่าโครงการ Coding Thailand จะกลายเป็นศูนย์กลางความรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เยาวชนและประชาชนทุกคนมีโอกาสได้เรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน มือถือ โน้ตบุค ไอแพด เพื่อรู้เท่าทัน และสร้างสรรค์ในการใช้เทคโนโลยี”
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า “โครงการ Coding Thailand เปรียบเสมือนโลกใหม่ของการศึกษาในยุคดิจิทัล เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนากำลังคนและบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่งจะเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการเป็นประเทศไทย 4.0 ดีป้า พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ CodingThailand.org โดยบูรณาการความร่วมมือกับ Code.org องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ของเยาวชนชั้นนำของโลก และหน่วยงานพันธมิตรเอกชน อาทิ ไมโครซอฟท์, ซิสโก้, กูเกิ้ล และ อักษร เอ็ดดูเคชั่น ฯลฯ”
ที่สำคัญ CodingThailand เป็นรูปแบบการเรียนรู้ผ่าน CodingThailand.org จะครอบคลุมทั้งการเรียนรู้แบบทางการและไม่ทางการ (Formal and Informal Education) โดยเน้นเนื้อหาของบทเรียนด้านใน Coding ให้เข้าบริบทการศึกษาในชั้นเรียนแต่ละระดับต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมสนุกสานที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้นอกชั้นเรียน
ด้าน Ms.Alice Steinglass ประธาน Code.org กล่าวว่า “เศรษฐกิจดิจิทัล กำลังเข้ามามีบทบาท และมีความสำคัญในทุกอุตสาหกรรมรวมถึงการทำงานในแวดวงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบอัตโนมัติจะเข้ามาทดแทนการทำงานของมนุษย์ทั่วโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่กำลังทำงานอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กทุกคนควรได้รับการส่งเสริมแ ละพัฒนาทักษะให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงด้วยการเรียนรู้ด้านวิทยาการคำนวณ เพราะทักษะพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนไทย ทั้งการใช้เทคโนโลยีที่ดี และสร้างสรรค์ ได้ในอนาคต นั่นคือสิ่งที่ Code.org ในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไร มุ่งส่งเสริมให้นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาสามารถเข้าถึงหลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
การที่กระทรวงดีอี และ ดีป้า ตระหนักในการส่งเสริมกำลังคนดิจิทัลของไทย ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์ม CodingThailand.org ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ Code.org ที่จะแบ่งปันเนื้อหาและองค์ความรู้ให้กับโครงการที่สำคัญอย่างยิ่งกับคนไทย ทั้งหมดนี้จะนำไปซึ่งการพัฒนานวัตกรรมที่นำประโยชน์มาสู่สังคมโลกได้อย่างไม่สิ้นสุด Ms.Alice Steinglass กล่าว
เชื่อว่าแพลตฟอร์ม CodingThailand.org จะสามารถเข้าถึงเยาวชนได้ไม่น้อยกว่า 10ล้านคนทั่วประเทศภายใน 3ปีหลังจากการเปิดตัว และจะกลายเป็นโลกของการศึกษาแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งยังจะช่วยสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาทุกช่องทาง จะเกิดรูปแบบการศึกษาที่ขนานไปกับวัฒนธรรมในมิติของบุคคล คือ เยาวชน และในมิติของสังคม คือ ครอบครัว ซึ่งเราจะได้เห็นความสุขที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไปจากการเรียนแบบเดิมๆ ดีป้ากล่าว