สาธิตา โสรัสสะ เปิดตัวหนังสือ Share Thailand to the World แชร์เมืองไทยให้โลกรู้ 60 ปี ท่องเที่ยวไทย



เปิดตัวพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยวไทยเล่มที่ 28 ของนักเขียน “สาธิตา โสรัสสะ” “ Share Thailand to the World – แชร์เมืองไทยให้โลกรู้ - 60 ปีท่องเที่ยวไทย” ผลงานเขียนของสื่อมวลชน บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวกว่า 30 ปี

            บริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด เปิดตัวตัวพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยวไทยเล่มที่ 28 ของค่ายภายใต้ชื่อ Share Thailand to the World – แชร์เมืองไทยให้โลกรู้ - 60 ปีท่องเที่ยวไทย ผลงานการเขียนของสาธิตา โสรัสสะ นำเสนอเรื่องราวหลากหลายรส ทั้งกาลเวลาที่ผ่านมาของการท่องเที่ยวไทยกว่า 60 ปี รางวัลระดับโลกที่เมืองไทยได้รับ รูปแบบการท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงการจัดอันดับ 9 สุดยอดที่เที่ยวต่างๆทั้งทะเลไทย ,เมืองเล็กน่ารัก ,เทศกาลไทยที่ดังระดับโลก

            ตลอดจนเรื่องราวของหน่วยงานต่างๆด้านท่องเที่ยว ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ฯลฯ ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ สมาคมด้านท่องเที่ยวต่างๆ สายการบิน สื่อมวลชน เป็นต้น

            รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตลอดจนเหล่าผู้ทรงอิทธิพลในวงการท่องเที่ยวไทย 40 ผู้อาวุโส ร่วมสร้างสรรค์เมืองไทย และเรื่องราวของ Success stories 30 คนวงการท่องเที่ยว-อาหารไทย ที่ร่วมขับเคลื่อนเมืองไทย

             ภายในงานเปิดตัว  “ Share Thailand to the World – แชร์เมืองไทยให้โลกรู้ – 60 ปีท่องเที่ยวไทย”โดยมีแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่องและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในปี 61 ด้วยเสน่ห์หลากหลาย เชื่อมโยงสังคม วัฒนธรรม อาหารและบริการ

            นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามองว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก  จากตัวเลขนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยจำนวน 12 ล้านคนในปี 2545 ปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หรือเกือบ 4 เท่าตัว สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 6  แสนล้านบาท เป็น 2.75 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน  10% ของ GDP  มาเป็น 20% ของGDP ขณะที่การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มี 1 ล้านคนได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านคน   รวมทั้งการพัฒนาแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ปัจจุบันมีอยู่ 4.5 ล้านคนให้ชัดเจนว่า จะพัฒนาอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีตั้งเป้าไว้ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาทในปี 2561  ภาคแรงงานจึงต้องให้ชัดเจน ขณะเดียวกันยังเน้นเรื่อง Local Experience การท่องเที่ยวชุมชน มีการต่อยอดสร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนองค์การมหาชนหรือ อปท. ให้ความเห็นว่า  การท่องเที่ยวเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชนอย่างไร โรงแรมที่พักเชื่อมโยงกับวิถีชีวิต ชุมชนและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนอย่างไร  มีความสนใจการทำกิจกรรมในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ซึ่งเป็นการนำต้นทุนทางสังคม วัฒนธรรมมาเป็นต้นทุนของแหล่งท่องเที่ยว ช่วยสร้างความภูมิใจให้ชุมชน รักความเป็นอัตลักษณ์ในตัวตนของพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ความเป็นตัวตนของพวกเขา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขายได้ สร้างรายได้ อันจะทำให้เกิดการอนุรักษ์และสานต่อและช่วยให้เกิดความยั่งยืน

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท. เชื่อมั่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยกล่าวว่า จากการที่ตนทำงานที่ททท.มาตั้งแต่จบการศึกษาเป็นที่แรกมากระทั่งปัจจุบันมากกว่า 30 ปี ทำให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาตลอด แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกอย่างหนึ่งคือ นักท่องเที่ยวไม่ชอบให้เรียกพวกเขาว่า นักท่องเที่ยวหรือ “ทัวริสต์”  แต่มีความสุขที่จะถูกเรียกว่า “นักเดินทาง”  เพราะมีมิติของการค้นหาประสบการณ์มากกว่า ดังนั้นฝั่งซัพพลายจึงมีความสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวจะเข้าไปสัมผัส พูดคุย ซึ่งททท.มั่นใจว่า จะทำงาน ดูแลจัดหาบริการให้สอดพ้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) มองแนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2561 ว่าประเทศไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวโปรดปรานเหมือนเดิม โดยกรุงเทพมหานครเพิ่งได้รางวัลว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอันดับ 1 แซงลอนดอนมาเป็นเวลา 2 ปี เพราะไทยมีเสน่ห์ ตรงที่มีความหลากหลายทางด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรม ตามคอนเซ็ปต์การท่องเที่ยวของปีหน้าที่เน้น 3 ส. (สนุก เสน่ห์ สุขสบาย  )และ 1 อ.(อร่อย)

ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช รองผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยมุ่งเป้า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวถึงทิศทางสกว.ในปี 2561 ว่า หลังจากในปี 2559 รัฐบาลได้ให้สวทน.และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) บริหารจัดการร่วมกัน  เกิดเป็นสภาวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เดิมการให้ทุนวิจัยทำตามความต้องการของผู้จะนำไปใช้ประโยชน์และการนำผลงานวิจัยไปใช้

สำหรับในปี 2561 สกว. ได้ทำMOU กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.)และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มีเป้าหมายการวิจัยในด้านพัฒนาแรงงาน โดยจะทำในเรื่อง virtual tourism academy สำหรับแรงงานที่ไม่ได้มาเรียนในสถาบันการศึกษา