อลังการ “ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี”วัดไผ่โรงวัว



ตอบโจทย์ท่องเที่ยวในยุค 4.0 เพิ่มความน่าสนใจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เน้น การสร้างสรรค์ ต่อยอดจากสิ่งที่ท้องถิ่นมีอยู่ บริหารจัดการให้เกิดความยั่งยืน “สุพรรณบุรี” เมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอีกจังหวัดหนึ่ง “แหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สินค้า บริการตอบ สนองความต้องการได้เป็นอย่างดี และงานดี ๆ ที่จะรำลึกความเป็นสุพรรณบุรีอีกครั้ง “ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี” วัดไผ่โรงวัว 28 มิ.ย.-2 ก.ค. 2560

      นายพงษ์ภานุ  เศวตรุนทร์  ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา  กล่าวว่า  เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองสุพรรณบุรีให้กลับอีกครั้ง   รวมทั้งเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  จังหวัดสุพรรณบุรีเตรียมจัดงาน “ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี” ขึ้น ณ.บริเวณวัดไผ่โรงวัว ระหว่างวันที่28 มิ.ย.-2 ก.ค. 2560

          โดยได้หยิบยกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดไผ่โรงวัว มาถ่ายทอดสู่  เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัด   และกระตุ้นเศรษฐกิจ  และสร้างรายได้ให้กับชาวสุพรรณบุรี   รวมทั้งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1   โดยจังหวัดสุพรรณบุรีมีแนวคิดที่จะสนับสนุนการจัดงาน 2 ปีแรก และในปีถัดไปจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมกันดำเนินการต่อไป  ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีคาดหวังให้การจัดงานนี้สามารถจัดติดต่อได้ทุกปีจนสามารถบรรจุงานนี้ให้อยู่ในปฏิทินท่องเที่ยวของประเทศไทย

      ปัจจุบันจังหวัดสุพรรณบุรีถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง  มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลาย  จึงทำให้สุพรรณบุรีมีขีดความสามารถต่อการพัฒนาสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในยุค 4.0 ได้ดี  โดยตนมีนโยบายสำคัญที่ต้องการบริหารจัดการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน   ด้วยการต่อยอดจากสิ่งที่ท้องถิ่นมีอยู่   เพื่อให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ภายใต้หลักการต้องกระจายประโยชน์จากท่องเที่ยวคืนสู่ท้องถิ่น

      นายเสฐียรพงศ์  มากศิริ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  กล่าวว่า  สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1  ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย  ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งวิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณี และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  แต่เสียดายที่ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งได้ถูกลืมเลือนไปอย่างน่าเสียดาย

      พระครูอนุกูล  ปัญญากร  เจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว  รองเจ้าคณะอำเภอสองพี่น้อง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดไผ่โรงวัว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2512  โดยครั้งนั้น ทรงประกอบพระราชพิธียกพระเกตุมาลา “พระพุทธโคดม” พระพุทธรูปโลหะสำริดสีดำองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี ในสมัยของหลวงพ่อขอม หรือ พระครูอุภัยภาดาทร อดีตเจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งชาวอำเภอสองพี่น้อง โดยเฉพาะชาวบ้านไผ่โรงวัว  ถือว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่สำคัญ และเป็นมงคลสูงสุดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้

      นายวิรัติ  แข็งขัน   ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี   กล่าวว่า    ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง ที่เรียกว่า 3D Mapping ซึ่งเป็นการใช้ฉากกราฟฟิก 3 มิติ ร่วมกับนักแสดงกว่า 100 คน ในชื่อชุดว่า “๒๐๐๐ มหัศจรรย์สุพรรณบุรี” จัดแสดงวันละ1 รอบ ในเวลา 20.00 น  โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดไผ่โรงวัว  และความรุ่งเรืองของจังหวัดสุพรรณบุรีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

     และที่สำคัญการแสดงในฉากที่ 8  ซึ่งเป็นฉากสุดท้าย จะเป็นการแสดงเทิดพระเกียรติสดุดีพระมหากษัตริย์ไทย  ตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวร กระทำยุทธหัตถี  เพื่อรักษาเอกราชจนกระทั่งเข้าสู่ความรุ่งเรืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 จวบจนรัชสมัยแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 10  โดยจะมีการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไว้ด้วย เชื่อว่าทุกคนที่ได้เข้าชมจะต้องซาบซึ้งและประทับใจกับการแสดงชุดนี้อย่างแน่นอน รวมถึงการแสดง Light & Sound “ภูมินรกภพสวรรค์ แดนอัศจรรย์  หลังความตาย”  ที่น่าตื่นตาตื่นใจ จำนวน 5 รอบต่อวัน และยังนำร้านค้าจาก 8 ตลาดเก่าชื่อดังเมืองสุพรรณ เช่น ตลาดสามชุก ตลาดเก้าห้อง ตลาดศรีประจันต์ ตลาดบางลี่ ฯลฯมารวมไว้อยู่ในที่เดียวกัน