ที่โรงพิมพ์องค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้จัดพิธีส่งและรับมอบงานในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.
ระหว่าง ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่ผอ.องค์การค้าฯ คนใหม่ และดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) อดีตปฏิบัติหน้าที่ผอ.องค์การค้าฯ โดยมีผู้บริหาร สกสค.และผู้บริหารองค์การค้าฯทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมพิธี ไปเมื่อเร็วๆนี้
โดยดร.สุเทพ กล่าวฝากผอ.องค์การค้าฯคนใหม่ว่า จากที่ตนได้รับมอบงานให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2558 จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นเวลา 1 ปี 10 เดือน เนื่องจากตนมีภาระงานมากขึ้น จึงได้มีการแต่งตั้งให้ ดร.พิษณุ มาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯแทนปัญหาต่างๆภายในองค์การค้าที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาพลักษณ์ “มีเรื่องการทุจริต”ที่คนภายนอกมองว่ามีมาก แต่เมื่อตนได้เข้ามาสัมผัสในการทำงานแล้วพบว่า ระเบียบราชการมีความยืดหยุ่นได้ แต่ละคนปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของผอ.องค์การค้าฯ และนโยบายตามระเบียบราชการ ซึ่งพบว่ามีทั้งที่กระทำความผิดโดยเจตนาและไม่เจตนา ส่วนที่กระทำความผิดเจตนาได้มีการลงโทษไปแล้วประมาณ 20-30 คน ทั้งไล่ออก ให้ออก
อดีตปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ กล่าวต่อว่า จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดขององค์การค้าฯ คือ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดภายในองค์การค้าฯมีปัญหาเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้สิ่งใหม่ ทำให้พวกเขาไม่ได้รับการเรียนรู้เท่าที่ควร และยังพบว่าการทำงานใช้ระบบเดิมๆอยู่มากเมื่อก่อนใช้อย่างไรปัจจุบันก็ยังใช้เหมือนเดิม โดยเฉพาะเทคโนโลยีทำให้การรับรู้องค์กรภายนอกไม่เท่าทัน เรื่องการพัฒนาคนถือเป็นจุดอ่อนที่ต้องมีการพัฒนาอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในองค์การค้าฯมีวัฒนธรรมการทำงานลึกคล้ายข้าราชการภายในศธ.อีกด้วย
ดร.สุเทพ กล่าวอีกว่า เรื่องการเงินภายในองค์การค้าฯพบว่าลดการขาดทุนไปมาก ก่อนที่ตนเข้ามามีการขาดทุนการทำธุรกิจในองค์การค้าฯไปถึง 400 กว่าล้านบาท เมื่อเข้ามาทำงานการขาดทุนลดลงเหลือประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพราะทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีมาก อาจเป็นเพราะว่ากลัวความผิดและพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สำหรับดร.พิษณุ ถือเป็นบุคคลมีความตั้งใจทำงาน เป็นนักสู้ กล้าคิด รอบรู้งานด้านศึกษามีประสบการณ์ตามที่ทราบกันดีว่าที่ผ่านมาศธ.มีปัญหาหลายด้าน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าดร.พิษณุจะเข้ามาดูแลและขับเคลื่อนงานภายในองค์การค้าฯได้อย่างดี
“ผอ.องค์การค้าฯคนใหม่นี้มีทั้งความนิ่ง ความลึก ความคมและมีประสบการณ์ในการบริหารบุคคลมาอย่างมาก ตนขอให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในองค์การค้าฯทุกคนได้ช่วยกันร่วมมือในการขับเคลื่อนให้องค์การค้าฯก้าวหน้ามีประสิทธิภาพ”ดร.สุเทพ กล่าว
ขณะที่ดร.พิษณุ กล่าวว่า ตนเหลือเวลาราชการอีก 7 เดือนจะเกษียณอายุ และได้เติบโตมาในสายงานการศึกษาโดยเฉพาะเรื่องของบริหารบุคคลมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันตนมีอีกตำแหน่งหนึ่งคือ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินครู หากดูประวัติผ่านมาคงไม่เป็นภัยกับใคร สิ่งที่ตนได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งนี้ เพื่อมาสะสางงานต่างๆที่อยู่ใน สกสค.และพร้อมมุ่งมั่นทำงานให้องค์การค้าฯ มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด จากการที่ตนได้เข้ามาดำเนินงานประมาณ 5 เดือนในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.นั้นมีความคืบหน้าไปพอสมควรและก่อนเกษียณอายุราชการไปคงจะเห็นการวางระบบงานภายใน สกสค.ชัดเจนและมีมาตรฐานมากขึ้นรวมทั้งปัญหาภาพลักษณ์ในองค์การค้าฯเรื่องทุจริตจะดีขึ้น