สมาคมวิชาชีพกำจัดแมลงร่วมกับ มก. โชว์ผลงานวิจัยชิ้นแรก “ออกแบบระบบวางท่อด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กำจัดปลวก”



        นายสุทิยา ศิริเจริญ  นายกสมาคมวิชาชีพกำจัดแมลง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางสมาคมวิชาชีพกำจัดแมลง ได้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560พร้อมเปิดตัวผลงานวิจัย “การออกแบบระบบวางท่อและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการวางระบบท่ออัดน้ำยาแบบหัวฉีดเพื่อป้องกันและกำจัดปลวก การก่อสร้างบ้าน อาคาร โรงงาน” ที่โรงแรมมิราเคิล กทม. โดยทางสมาคมได้มอบทุนสนับสนุนการศึกษาวิจัยดังกล่าวให้กับอาจารย์และนิสิตประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) รวมทั้งยังเป็นผลงานวิจัยชิ้นแรกของสมาคมฯที่มีเอกสารทางวิชาการรองรับ ด้วยทุนวิจัยจำนวน50,000 บาท โดยใช้ระยะเวลาในการศึกษาจำนวน 1 ปี ตั้งแต่ปลายปี 2558 ถึงกลางปี 2559

นายสุทิยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาระบบการวางท่อต่างๆด้วยการอัดน้ำยากำจัดปลวกแบบหัวฉีดให้กระจายทั่วบ้าน อาคาร และโรงงาน ไม่มีเอกสารทางวิชาการรองรับ  ดังนั้นทางสมาคมฯเห็นความสำคัญการวางระบบในปัจจุบันที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าที่ใช้บริการงานวางระบบแบบมาตรฐาน และยังเป็นการยกระดับอาชีพกำจัดแมลง รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจกับผู้ให้บริการและผู้รับบริการ รวมถึงภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ในฐานะที่ตนเป็นนายกสมาคมวิชาชีพกำจัดแมลงและผู้ก่อตั้งสมาคมฯติดต่อกันถึง 2 สมัยในระยะเวลา 5 ปี โดยมีสมาชิกที่เป็นทั้งวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านกำจัดแมลง บริษัทธุรกิจจำหน่ายเคมีและบริษัทกำจัดแมลงรวมทั้งสิ้น 35 บริษัท

นายสุทิยา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการรับกำจัดแมลงประมาณ 4,000 บริษัท ที่บริการกำจัดแมลง ปลวกตามบ้านพักอาศัย อาคารต่างๆ โดยเป็นไปลักษณะต่างคนต่างทำ ไม่มีองค์กรที่มารวบรวมความรู้ด้านวิชาการ ขณะที่ระบบการกำจัดแมลงและปลวกมีหลากหลาย อาทิ การราดน้ำยา การวางท่อใต้ดิน และอื่นๆ โดยไม่มีเอกสารทางวิชาการรองรับ

“แม้ผลงานวิจัยชิ้นจะเป็นเพียงก้าวแรกที่สมาคมฯจะต้องทำต่อไปอีก แต่”การออกแบบระบบท่อปัองกันและกำจัดปลวก”ที่พัฒนาขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วย ท่อส่งเคมีหัวฉีดปลายทาง โดยบริษัทสมาชิกที่ผ่านการอบรมแล้วจะเป็นผู้ติดตั้งระบบให้ซึ่งมีการคำนวณแรงดัน แรงฉีดตามความเหมาะสมของบ้านหรืออาคารแต่ละแห่ง ซึ่งท่อที่ใช้เป็นท่อ พีวีซี ได้มาตรฐานกลางและมีราคาไม่แพง  ประกอบกับมีอายุงานใกล้เคียงกับอายุของบ้านหรืออาคารราว 30-40 ปี โดยระบบนี้มีประสิทธิภาพในการกำจัดปลวกที่ได้ผลสูงถึง 90% โดยคาดว่า ระบบท่อฯที่พัฒนาใหม่จะสามารถนำมาใช้ให้กับผู้รับบริการได้ราวไตรมาสที่ 3 ของปี 2560นี้