นายคิมูระ เปิดเผยว่า ในปี 2559 เป็นปีที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งต่อโตชิบา ต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงเหตุการณ์ใหญ่ในประเทศไทย แต่โตชิบา ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี ภายใต้มาตรฐานการดีไซน์และการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน โดยมุ่งเน้นด้านคุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ โตชิบายังคงเน้นนโยบายอย่างจริงจังในการทำธุรกิจที่สนับสนุน สร้างความสำเร็จและเติบโตไปพร้อมกันกับตัวแทนจำหน่าย
จากความร่วมมือกันระหว่างโตชิบา และไมเดีย ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้โตชิบายิ่งขึ้น เพราะทั้ง 2 บริษัท นับเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์มาช้านาน จึงก่อให้เกิดการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆ ภายใต้การควบคุมมาตรฐานและเทคโนโลยีของโตชิบา และช่วยจัดหาทรัพยากรต่างๆที่ส่งเสริมกันยิ่งขึ้น
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2560 เชื่อว่าทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย จากเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างที่สนับสนุน ทั้งภาครัฐบาล และเอกชนช่วยกันเร่งกระตุ้น และส่งเสริมการใช้จ่ายและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ประกอบกับเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จึงส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายได้มากขึ้น
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย แม้จะค่อนข้างซบเซาในช่วงที่ผ่านมาบ้าง แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่ปลายปี ซึ่งเป็นฤดูกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย ต่อเนื่องถึงกลางปีหน้า คาดว่ากำลังซื้อเกือบทั้งหมดจะกลับมา โดยเฉพาะหน้าร้อน ที่สงครามการแข่งขันจะค่อนข้างรุนแรง ทางโตชิบาเอง ยังคงดำเนินนโยบายด้านการตลาด ด้วยการผลิตสินค้าที่ควบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และมีแคมเปญการตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยปลายปีจะมีแคมเปญ Season of Giving เทศกาลแห่งการให้ เน้นสินค้าชิ้นเล็ก อาทิเครื่องครัว และของใช้ในบ้าน รวมไปถึงตู้เย็น ทีวี และของใช้หลักสำหรับบ้านใหม่ และต่อเนื่อง Summer Festival ในหน้าร้อนที่จะมาถึง ซึ่งจะเน้นไปที่เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น มากไปกว่านั้น เราเน้นการทำการตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น โดยส่งเสริมให้มีช่องทางการขายทั้งผ่านหน้าร้านค้า และช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้อย่าง Real time สำหรับการทำกิจกรรม ณ จุดขาย เน้นการตกแต่งหน้าร้านและทำกิจกรรมต่างๆ ให้เข้ากับเทศกาลในแต่ละช่วงเวลา รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ในท้องถิ่น และมีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย อาทิ Roadshow, Cooking workshop และกิจกรรมผ่าน Social media ต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกกับโตชิบา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และวัยทำงานที่ใช้ Social Media ในการอัพเดทเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวัน ซึ่งถือเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าของโตชิบาให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับการดูแลช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า เรายังคงมุ่งเน้นการให้ความรู้ การฝึกอบรมทั้งตัวแทนจำหน่าย พนักงานขายประจำร้าน (PC & Shop boy) และพนักงานที่ให้บริการหลังการขายต่างๆ ให้มีศักยภาพสูงขึ้น ทั้งในเรื่องความรู้ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและทักษะการขาย การติดตั้ง ดูแลรักษา และซ่อมบำรุง ให้มีความเป็นมาตรฐานที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้า
โตชิบาเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดมากขึ้น โดยจัดหาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้าทั้งกลุ่มพรีเมียม กลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยยังคงจัดหากลุ่มผลิตภัณ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่ม HA – Home Appliances Product Group ประกอบไปด้วยสินค้า 5 หมวดด้วยกัน ได้แก่ ตู้เย็น (REF) เครื่องซักผ้า (WM) เครื่องปรับอากาศ (AC) เครื่องใช้ในบ้าน (LIV) และเครื่องใช้ในครัวเรือน (KIT)
2. กลุ่ม VS – Visual Solution Product Group ได้แก่กลุ่มสินค้าหมวดทีวี ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายทั้งสมาร์ททีวี ดิจิตอลทีวี อนาล็อกทีวี และในเร็วๆนี้ จะมี 4K ทีวี และแอนดรอยด์ทีวีเข้ามาให้บริการ
3. กลุ่ม IT – Information Technology Product Group เรามุ่งเน้นการจำหน่ายโน้ตบุ๊กโดยเจาะตลาด B2B เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กร หน่วยงานราชการ การศึกษา และรองรับระบบโซลูชั่นต่างๆ
นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่าวเสริมว่า โตชิบาเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นที่อยู่ในตลาดเมืองไทยมาช้านาน จนปีหน้า เราจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 48 เราได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้า ในเรื่องความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จนได้รับรางวัลมากมาย และสำหรับในปี 2560 นี้ เรามีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากมายที่ได้นำมาเผยโฉมในวันนี้ เริ่มจากตู้เย็น ที่โตชิบาเป็นที่ 1 ติดต่อกันมาหลายปี สำหรับตู้เย็น 1 ประตู เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับตู้เย็น Plus ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2559 ตู้เย็นดังกล่าวถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงดีไซน์และประโยชน์ใช้สอยของผู้บริโภคเป็นหลัก จึงไม่แปลกที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนยอดขายในช่วงที่ผ่านมาทะลุเป้าอย่างรวดเร็ว สำหรับต้นปี 2560 เราตั้งใจออกรุ่นลิมิเต็ด เพื่อฉลองโตชิบาครบรอบ 48 ปี คือรุ่น GR-B188XGR ขนาด 6.5 คิว โดยได้เพิ่มสีสันใหม่ ให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น คือสี Reddish Gold และปรับวัสดุหน้าบานให้ดูพรีเมียมขึ้น ชั้นวางภายในเปลี่ยนจากพลาสติกเป็นกระจก เปลี่ยนสติกเกอร์รูปแอปเปิ้ลหน้าตู้ เป็นอลูมิเนียม ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดจึงทำให้ตู้เย็นรุ่นนี้หรูหรายิ่งขึ้น
ตู้เย็น 2 ประตู หลังจากที่กระแสตอบรับกับระบบอินเวิร์ทเตอร์ (Inverter) เป็นที่นิยมอย่างมาก และโตชิบาก็ได้จำหน่ายตู้เย็น 2 ประตูขนาดกลางและใหญ่ไปก่อนหน้านี้ และประสบความสำเร็จมากเช่นกัน เราจึงตั้งใจวางจำหน่ายตู้เย็น 2 ประตู Inverter ขนาดเล็กออกมาเอาใจตลาดคอนโด และครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่งเป็นที่มาของตู้เย็น M series มี 2 ขนาด ได้แก่ 6.9 คิว (GR-M25 series) และ 8 คิว (GR-M28 series) โดยทั้ง 2 ขนาดจะมีหน้าบานให้เลือก 2 แบบ คือ เป็น Uni Glass และ Steel ซึ่งรุ่นที่เป็น Uni Glass หน้าบานจะเป็น Glossy คล้ายกระจก ดูเงางาม หรูหราขึ้น ส่วนที่เป็น Steel ก็จะดูเป็นเหล็กด้าน หรูหราไปคนละแบบ เอาใจสไตล์ลูกค้าที่แตกต่างกัน สำหรับภายในตู้ รุ่นนี้มีระบบ Hybrid Bio Deodorizer และ Cool Air Wrap System ที่นอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เพราะบางทีในตู้เย็น เราจะแช่ทั้งอาหารคาวและหวานอยู่ในตู้เดียวกัน ระบบดังกล่าวจะช่วยกำจัดแบคทีเรีย ระบายอากาศ ทำให้อาหารสด นานยิ่งขึ้น ส่วนช่องแช่จะมีขนาดใหญ่ สามารถปรับชั้นวางได้สูงสุด 8 ระดับ ช่องอาหารสด และ/หรือวางกระป๋องเครื่องดื่ม มีขนาดใหญ่ และเย็นเร็วขึ้น ทำให้ตอบสนองชีวิตคนเมืองที่ต้องการความรีบเร่ง และเหมาะกับตลาดเมืองร้อนอย่างประเทศไทยที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ส่วนชั้นวางตรงประตู จัดวางระดับให้เหมาะสมกับการวางขวดน้ำขนาดใหญ่ ขวดนม หรือกล่องน้ำผลไม้ได้ และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ต้องก้มต่ำหรือเอื้อมสูงเกิน ชั้นวางอเนกประสงค์ข้างประตูสามารถปรับพับเก็บได้ เพื่อให้วางของได้หลากหลายขึ้น ส่วนช่องแช่ผักมีขนาดใหญ่ สามารถจุผักผลไม้ได้ประมาณ 1 ตะกร้า ระบบไฟเป็นแบบ LED และแน่นอนว่าด้วยความเป็น Inverter ทำให้ตู้เย็นประหยัดไฟมากกว่าเดิม และทำงานได้เงียบ เหมาะกับการอยู่ในคอนโด หรือห้องนั่งเล่นอย่างแท้จริง
เครื่องปรับอากาศ ต้นปีหน้า โตชิบาจัดเต็มทั้งเครื่องปรับอากาศแบบอินเวิร์ทเตอร์ (Inverter) และเครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา (Fixed Speed) โดยจะจำหน่ายรุ่นใหม่ทั้งหมด 9 รุ่น สำหรับเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่นี้ รูปลักษณ์ภายนอกจะอิงจาก รุ่น Inverter ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ส่วนโครงสร้าง และส่วนประกอบภายใน เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ สารทำความเย็นจากเดิมที่เป็นน้ำยา R410a เปลี่ยนมาเป็น R32 ในทุกรุ่น เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่วนตัวคอยล์ ยังคงเป็นทองแดง ที่ช่วยถ่ายเทความร้อนออก และนำพาความเย็นได้เร็วขึ้น ใบพัดลมขนาดใหญ่ ทำให้ส่งลมได้ไกล ทำให้อากาศเย็นเร็วขึ้น มีระบบ Self-Cleaning ทำความสะอาดตัวเอง และไล่ความชื้นออก เมื่อดับเครื่องแล้ว ทำให้ลดการสะสมของเชื้อโรคและสำหรับระบบอินเวิร์ทเตอร์ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือการทำงานได้เงียบและประหยัดไฟกว่าเดิมมาก ทำให้หลับสบาย
ส่วนหน้าหนาวนี้ เราพร้อมลุยสำหรับตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น โดยส่งน้องใหม่ล่าสุด J series มาเป็นรุ่น Fighting Model เจาะตลาดคอนโด โครงการบ้าน และตลาดแมส เพื่อให้ครบไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้โตชิบาทำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น ซีรีย์ G ที่เน้นตลาดคนชอบดีไซน์ และสีสัน โดยเฉพาะสีส้ม และสีดำ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี ส่วนซีรีย์ MC เหมาะสำหรับคนที่เน้นความปลอดภัยเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามจุดเด่นของเครื่องทำน้ำอุ่นโตชิบาคือ ทุกรุ่นเป็นใช้วัสดุทองแดงทำหม้อต้ม เพื่อให้ได้น้ำที่อุ่นในระยะเวลาที่เร็วขึ้น และมีระบบความปลอดภัย 19 จุด อาทิป้องกันไฟรั่ว ป้องกันน้ำร้อนเกินไป ป้องกันการลามไฟ เป็นต้น นอกจากนี้บางรุ่นใช้วัสดุพิเศษ Banbax ซึ่งเป็นพลาสติกเกรดพิเศษที่ผสมสารป้องกันแบคทีเรีย และเชื้อรา ที่ก่อตัวได้ง่ายในห้องน้ำซึ่งมีความชื้นสะสม
นางสาวรัชนีวรรณ สิงห์ประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี และ DHA Kitchen & Living กล่าวว่า โตชิบาขอตอกย้ำความเป็น Top Japanese Brand ด้วยการออกผลิตภัณฑ์หมวดทีวี รวมทั้งสิ้น 22 รุ่นในปี 2016 หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เปิดตัวสมาร์ททีวีและดิจิตอลทีวีไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา สำหรับเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โตชิบารุกตลาดทีวีด้วย UltraHD 4K ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่โตชิบาได้พัฒนาทีวีกลุ่มนี้ ในครั้งนี้ เรานำทีวี UltraHD 4K - U series เข้ามารุกตลาด 2 รุ่นคือ U9650 และ U7650 โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีสเปกเหมือนกัน ต่างกันที่ดีไซน์ โดยดีไซน์ของ U96 จะเป็น Super Slim (เป็น Edge LED) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Home Decoration จะเห็นชัดว่าบางเฉียบกว่า U76 ซึ่งเป็น Direct-LED นอกจากนี้ทีวี UHD 4K ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังคงรวม 3 นวัตกรรมในเครื่องเดียว คือเป็น UHD 4K, Smart TV และ Digital TV ในเครื่องเดียว โดยมีจุดเด่นคือ Panel 4K มีความละเอียดสูงถึง 8.29 ล้านพิกเซล ละเอียดกว่าจอแบบ FHD 4 เท่า หัวใจสำคัญที่ทำให้ทีวีโตชิบาเหนือกว่าคือชิปประมวลผลเป็นแบบ CEVO 4K Engine ซึ่งโตชิบาได้ทุ่มเททั้งงบลงทุน วิศวกรผู้เชี่ยวชาญและระยะเวลาพอสมควร เพื่อคิดค้นนวัตกรรมล้ำสมัยนี้ขึ้นมา และเมื่อผนวกด้วยเทคโนโลยี Ultra Essential PQ Technologyให้ภาพที่สวยงามเจิดจรัส สมจริงเต็มอรรถรส ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียด, Wide Color Gamut สีและความสวยงามดั่งต้นแบบ, 4K Resolution+ ช่วยยกระดับความสวยงามของคอนเทนท์ที่รับชม, 3D Noise Filter กรองและลดสัญญาณรบกวนเพื่อให้ได้ภาพสวยคมชัดยิ่งขึ้น, IPS Panel สวยชัดทุกมุมมอง, BrightOn ภาพสว่างชัด, Contrast Booster ภาพคมชัดสมจริง ทั้งหมดนี้ เมื่อมาผสานกับจอ 4K จึงทำให้ภาพที่ได้ สวย คมชัด สมจริง ดุจธรรมชาติ เหมือนนั่งชมอยู่ในโรงภาพยนตร์ เรียกว่าจัดครบ จบในเครื่องเดียว มีทั้ง OperaTV, YouTube, Web Browser ให้คุณท่องโลกโซเชียลผ่านจอทีวีได้อย่างจุใจ สำหรับใครที่ชอบเล่นเกมส์ ดูคลิป ดูรายการต่างๆ ย้อนหลังผ่าน YouTube คงถูกใจแน่นอน นอกจากนี้ยังใส่ AMR+400 ซึ่งช่วยให้ภาพเคลื่อนไหว ลื่นไหลไม่ติดขัด ทำให้คอฟุตบอล เรซซิ่ง หรือหนังแอคชั่น ฮาร์ดคอร์ จะเห็นภาพที่คมชัด ชัดเจนทุกการเคลื่อนไหว เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับท่านที่ชอบดูรายการทาง Smart Phone หรือ Tablet ซึ่งขนาดจอค่อนข้างเล็ก อาจดูไม่สะดวกเสียสายตา โตชิบายังมีฟังก์ชัน Screen Mirroring ให้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถ Link ขึ้นชมบนจอใหญ่ได้สบายๆ เพิ่มความเพลิดเพลินเต็มอารมณ์เข้าไปอีก สำหรับ UHD 4K ทั้ง 2 ซีรี่ยส์นี้ มี 5 รุ่น มี 3 ขนาดให้เลือก คือ 43", 49" และ 55"
สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม DHA – Kitchen & Living โตชิบาเป็น Top Brand ในกลุ่ม Mid-to-High end series ในปี 2016 นี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยยอดขายเติบโต 25% ตอกย้ำส่งท้ายปลายปีนี้โตชิบามาพร้อมแคมเปญ “Season of Giving” เตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลปีใหม่ เทศกาลของขวัญ และเทศกาลแห่งการให้ที่จะมาถึงนี้อย่างมาก โดยนำเสนอคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด รุ่นลอลลี่ป๊อป (Lollipop) ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นหม้อหุงข้าว และกระติกน้ำร้อนดิจิตอลสีใหม่มาพร้อมแพ็กเกจจิ้งที่มีคำอวยพรดีๆ Healthy, Wealthy, Lucky and Happy เหมือนกระดาษห่อของขวัญในตัว โดยคอลเลกชั่น Lollipop นี้ถูกออกแบบมาสำหรับหม้อหุงข้าวดิจิตอล ขนาด 0.5 ลิตร รุ่น RC-5MM และ กระติกน้ำร้อนดิจิตอล ขนาด 2.5 ลิตร รุ่น PLK-25FL และ กระติกน้ำร้อน ขนาด 3 ลิตร รุ่น PLK-30FL ทั้ง 3 รุ่นประกอบไปด้วย 6 สี คือ ส้ม, ฟ้า, เขียว, เทาอ่อน, เทาเข้ม และ แดง สำหรับคุณสมบัติของหม้อหุงข้าว RC-5MM หม้อในหนาถึง 4 มม. ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของหม้อหุงข้าวดิจิตอลโตชิบา แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในตลาดประเทศไทย ช่วยทำให้กระจายความร้อนได้ทั่วถึงและคงที่ ทำให้หุงข้าวได้นุ่มอร่อยกว่าหม้อในที่บางกว่า และทำให้ข้าวเรียงเม็ดสวยงาม ตัวหม้อเคลือบ Healthy Flon ทำให้ข้าวไม่ติดหม้อ ทำความสะอาดง่าย สามารถหุงข้าวได้ทุกประเภท โดยเฉพาะข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวกล้อง ซึ่งยังคงความนุ่ม อร่อย ส่วนกระติกน้ำร้อนดิจิตอล ทั้ง 2 รุ่น สามารถปรับอุณหภูมิได้ 3 ระดับ คือ 60 องศา เหมาะสำหรับชงนม และ 85 องศา สำหรับ เครื่องดื่มชา-กาแฟ และ 95 องศา สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหารบริษัท กล่าวเสริมว่า นอกจากบริษัทฯจะเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และแผนการตลาดต่างๆตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีแผนการพัฒนาระบบสารสนเทศ ระบบงานบริการหลังการขาย ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล และระบบต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตในอนาคต และที่สำคัญ เรายังคงมุ่งเน้นนโยบายด้านส่งเสริมกิจกรรมที่ดีเพื่อสังคม (CSR - Corporate Social Responsibility) เช่นที่ผ่านมา โตชิบาจะต้องเป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีธรรมาภิบาลของสังคมไทย เป็นบริษัทที่ไม่ได้เน้นเพียงเรื่องการขายและการบริการเท่านั้น แต่ต้องเป็นบริษัทที่รับผิดชอบต่อท่านผู้แทนจำหน่าย ต่อสังคม ต่อคนรุ่นต่อไป ต่อประเทศชาติที่รักของพวกเราทุกคน และจะ “เดินตามรอยเท้าของพ่อ” มุ่งมั่น …นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต